
Pi-hole คือ อะไร
Pi-hole คือระบบ Network-wide Ad Blocker หรือก็คือตัวบล็อกโฆษณาทั้งเครือข่าย ที่ติดตั้งในบ้านหรือออฟฟิศ
สรุปง่าย ๆ:
คำถาม
|
คำอธิบาย
|
Pi-hole คืออะไร?
|
คือ "DNS Server" ส่วนตัวที่ทำหน้าที่ ปิดกั้นโฆษณา และ ป้องกัน Tracking สำหรับทุกอุปกรณ์ในเครือข่าย เช่น มือถือ, คอมพิวเตอร์, Smart TV
|
ทำงานยังไง?
|
เวลาอุปกรณ์ในบ้านขอข้อมูลเว็บ เช่น "โหลดโฆษณา" → Pi-hole จะตรวจสอบ ถ้าเจอว่าเป็นโฆษณา ก็ บล็อกตั้งแต่ชั้น DNS ไม่โหลดมาเลย
|
ทำไมถึงดีกว่า Adblock ปกติ?
|
เพราะไม่ต้องติดตั้ง Adblock ทีละเครื่อง และยังสามารถบล็อกอุปกรณ์ที่ปกติลงปลั๊กอินไม่ได้ เช่น Smart TV หรือ IoT ได้ด้วย
|
ต้องใช้อุปกรณ์อะไร?
|
แค่มีคอมพิวเตอร์เล็ก ๆ เช่น Raspberry Pi, หรือ VM ก็ได้
|
🔥 ข้อดีของการใช้ Pi-hole
-
🛡️ บล็อกโฆษณาได้ "ทั้งบ้าน" ในทีเดียว
-
🚀 อินเทอร์เน็ตไวขึ้น (ไม่ต้องโหลดโฆษณาหนัก ๆ)
-
🧹 ปลอดภัยมากขึ้น (ลดความเสี่ยงโดน Malware จากโฆษณา)
-
📈 ดูสถิติการใช้งาน DNS ของอุปกรณ์ได้
-
🌙 ควบคุมได้ละเอียด เช่น block หรือ whitelist domain เอง
🔥 ทำไมชื่อว่า "Pi-hole"?
-
"Pi" = มาจาก Raspberry Pi (อุปกรณ์ต้นทางที่นิยมใช้ติดตั้ง)
-
"Hole" = รู / ช่องโหว่ → เปรียบเทียบว่าเป็น "หลุม" ที่โฆษณา, Tracking ต่าง ๆ ตกลงไปแล้วหายไป ไม่มารบกวนเรา
🎯 หลักการทำงานคร่าว ๆ
อุปกรณ์ต่าง ๆ (PC / โทรศัพท์) --> ส่ง DNS Request --> Pi-hole -->
|-- ถ้าเป็นเว็บปกติ --> Forward ไปหา DNS ปกติ (เช่น 8.8.8.8) แล้วตอบกลับ
|-- ถ้าเป็นโฆษณา / tracker --> Block และตอบกลับ "ไม่มีอะไร"
สรุปสั้น ๆ:
Pi-hole = Adblock สำหรับทั้งเครือข่าย ติดตั้งง่าย มีพลังมาก และใช้แค่ Raspberry Pi ก็พอ! 🔥

ตัวอย่างหน้า contro dashboard
📚 การติดตั้ง Pi-hole บน Raspberry Pi 5
1. อุปกรณ์ที่ต้องมี
2. เตรียม SD Card
ลง Raspberry Pi OS (Lite) แบบไม่มี Desktop เพื่อให้เบาและเร็วที่สุด
ขั้นตอน:
-
ไปที่เว็บ https://www.raspberrypi.com/software/ แล้วดาวน์โหลด Raspberry Pi Imager
-
เปิด Imager → เลือก
-
กดตั้งค่า (gear icon ⚙️) แล้ว
-
ตั้งชื่อ Hostname เช่น pihole.local
-
ตั้ง username / password
-
เปิด Enable SSH (ไว้รีโมต)
-
ตั้ง Wi-Fi ถ้าจะใช้ (แต่ถ้ามีสาย LAN เสถียรกว่าครับ)
-
กด Flash!
หลังจาก Flash เสร็จ:
3. SSH เข้าไปใน Raspberry Pi 5
บนคอมที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน
ssh ชื่อผู้ใช้@IP_ADDRESS
เช่น
ssh pi@192.168.1.100
(หา IP ได้จากดูใน Router หรือ ใช้แอพ advance ip scanner สแกน IP)
4. อัปเดตเครื่องให้ล่าสุด
รันคำสั่งพวกนี้:
sudo apt update
sudo apt upgrade -y
sudo reboot
(รีสตาร์ท 1 รอบ)
5. ติดตั้ง Pi-hole
ง่ายมาก แค่รันคำสั่งนี้อันเดียว:
curl -sSL https://install.pi-hole.net | bash
จากนั้น Pi-hole installer จะเริ่มทำงาน กดเลือกตามขั้นตอนได้เลย
ตอนติดตั้งจะมีถาม เช่น:
-
จะใช้ Interface ไหน? → เลือก eth0 (ถ้าใช้สาย LAN)
-
จะใช้ DNS Server ไหน? → เลือก Google (8.8.8.8) หรือ Cloudflare (1.1.1.1) ก็ได้
-
ต้องการเปิด Web Admin Interface ไหม? → YES
-
ต้องตั้ง password สำหรับ Admin Dashboard ไหม? → YES
-
จะตั้ง IP แบบ Static ไหม? → YES (แนะนำ)
6. เข้าใช้งาน Pi-hole
หลังติดตั้งเสร็จ เขาจะโชว์ URL ประมาณนี้:
http://192.168.1.100/admin
ให้เอา URL นี้ไปเปิดใน Browser เพื่อเข้าหน้า Dashboard
Username: ไม่มี
Password: คือที่ระบบแจ้งไว้ (ถ้าลืม ใช้ pihole -a -p เพื่อเปลี่ยนได้)
7. ตั้งค่า Router (หรือ Device)
เพื่อให้ทุกอุปกรณ์ในบ้านใช้งาน Pi-hole:
หรือจะตั้งเฉพาะในมือถือ / PC ก็ได้ที่ DNS Settings
🎯 สรุปแบบสั้น ๆ
ขั้นตอน
|
สิ่งที่ทำ
|
1
|
Flash Raspberry Pi OS Lite ลง SD Card
|
2
|
เปิด SSH แล้วเข้าไปใน Pi
|
3
|
อัปเดตระบบ
|
4
|
ติดตั้ง Pi-hole ด้วยคำสั่งเดียว
|
5
|
ตั้งค่า DNS ที่ Router หรืออุปกรณ์
|
📦 เพิ่มเติม
สิ่งที่ทำได้หลังติดตั้ง Pi-hole
|
อธิบาย
|
Block Ads ทั้งเครือข่าย
|
ไม่ต้องลง Adblock ทีละเครื่อง
|
Block Tracking
|
ป้องกันการติดตามจากเว็บไซต์
|
ดูสถิติแบบเรียลไทม์
|
รู้เลยว่าใครยิงโฆษณาเยอะ
|
เพิ่ม Custom Blacklist / Whitelist
|
ปรับได้ตามใจ
|
ทำเป็น DHCP Server แทน Router
|
กรณีอยากควบคุมมากขึ้น
|
ที่มา https://docs.pi-hole.net/