AWS ล่มทั่วโลก! ส่งผลกระทบต่อบริการออนไลน์หลายแห่ง
ระบบ Cloud Computing ของ Amazon Web Services เกิดปัญหาใหญ่ ทำให้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันนับพันล่มไปทั่วโลก
Amazon Web Services (AWS) ประสบปัญหาขัดข้องครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2025 ส่งผลกระทบต่อบริการออนไลน์นับพันแห่งทั่วโลก รวมถึงเว็บไซต์การเงิน แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และแอปพลิเคชันต่างๆ ที่พึ่งพาระบบ Cloud ของ AWS
🔴 สถานะปัจจุบันของบริการ AWS
ผลกระทบที่เกิดขึ้น
ไทม์ไลน์เหตุการณ์
เริ่มมีรายงานปัญหา
ผู้ใช้งานเริ่มรายงานปัญหาการเข้าถึงบริการต่างๆ ผ่าน Social Media
AWS ยืนยันปัญหา
AWS ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าเกิดปัญหากับ EC2 และ S3 ในภูมิภาค US-East-1
ปัญหาขยายวง
ปัญหาขยายไปยังภูมิภาคอื่นๆ รวมถึง EU-West-1 และ AP-Southeast-1
เริ่มการแก้ไข
ทีมวิศวกรของ AWS เริ่มดำเนินการแก้ไขปัญหาและกู้คืนบริการ
เราตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับบริการ AWS และกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อแก้ไขปัญหานี้ให้เร็วที่สุด เราขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น
รายละเอียดทางเทคนิค
ปัญหาครั้งนี้เกิดจากความผิดพลาดในระบบ Network Infrastructure ของ AWS ในภูมิภาค US-East-1 ซึ่งเป็น Data Center หลักที่ให้บริการลูกค้าจำนวนมาก การขัดข้องของระบบ Networking ส่งผลให้ บริการต่างๆ เช่น EC2, S3, RDS และ Lambda ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
AWS ระบุว่าปัญหานี้ไม่เกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ แต่เป็นปัญหาทางเทคนิคภายในระบบ ทีมวิศวกรกำลังดำเนินการ Failover ไปยัง Data Center สำรองและกู้คืนบริการทีละส่วน
ผลกระทบต่อตลาดหุ้น
หุ้น Amazon (AMZN) ปรับตัวลดลง 2.3% ในการซื้อขายหลังเวลาทำการ หลังจากข่าวปัญหา AWS แพร่กระจาย นักวิเคราะห์คาดว่าเหตุการณ์นี้อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของ Amazon ในไตรมาสนี้ประมาณ 50-100 ล้านดอลลาร์
บริษัทคู่แข่งในตลาด Cloud Computing เช่น Microsoft Azure และ Google Cloud Platform อาจได้รับประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ในระยะสั้น เนื่องจากลูกค้าอาจพิจารณาใช้บริการสำรองจากผู้ให้บริการอื่น
มาตรการป้องกันในอนาคต
เหตุการณ์นี้เป็นการเตือนใจให้องค์กรต่างๆ ทบทวนแผน Business Continuity และ Disaster Recovery การพึ่งพาผู้ให้บริการ Cloud เพียงรายเดียวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงสูง
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้องค์กรควรมีแผน Multi-Cloud Strategy และระบบ Backup ที่กระจายความเสี่ยง เพื่อลดผลกระทบจากเหตุการณ์คล้ายกันในอนาคต