สินค้าทั้งหมด (All products)

สินค้า 18 ชิ้น

  • ขาย -40% Relay Module 5V 1/2/4 Channel for Arduino and Raspberry pi

    Global Pi Shop Relay Module 5V 1/2/4 Channel for Arduino and Raspberry pi

    Relay คืออะไร? การใช้งานและตัวอย่างการต่อกับ Arduino Relay (รีเลย์) คือ อุปกรณ์ประเภทสวิตช์ไฟฟ้าที่ทำงานโดยอาศัยหลักการของแม่เหล็กไฟฟ้า เราสามารถใช้สัญญาณไฟฟ้าแรงดันต่ำ (เช่น 5V จาก Arduino) เพื่อควบคุมการเปิด-ปิดวงจรไฟฟ้าที่มีแรงดันและกระแสสูงกว่ามาก (เช่น ไฟบ้าน 220V) ได้อย่างปลอดภัย ทำให้เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างยิ่งในงานอิเล็กทรอนิกส์และระบบควบคุมอัตโนมัติ คุณสมบัติของ Relay Module ควบคุมไฟแรงสูง: สามารถใช้สัญญาณไฟ 5V จาก Arduino ควบคุมอุปกรณ์ที่ใช้ไฟ 220V AC ได้ ทนกระแสสูง: โดยทั่วไปโมดูลรีเลย์สำหรับ Arduino สามารถทนกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 10A มีหลาย Channel: มีให้เลือกใช้งานหลากหลายตามจำนวนอุปกรณ์ที่ต้องการควบคุม เช่น 1, 2, 4, หรือ 8 Channel ปลอดภัยด้วย Optocoupler: โมดูลรีเลย์บางรุ่นจะมี Optocoupler (หรือ Photo-coupler) เพื่อแยกวงจรฝั่งควบคุม (Arduino) และฝั่งโหลด (ไฟ 220V) ออกจากกันโดยเด็ดขาด เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานและบอร์ด Arduino สเปคของ Relay 5V Module รายการ รายละเอียด แรงดันควบคุม (Input) 5V DC (จากขาของ Arduino) แรงดันโหลด (Output) สูงสุด ~250V AC หรือ 30V DC กระแสโหลดสูงสุด (Max Load) 10A จำนวนช่อง (Channel) 1, 2, 4, 8 (ขึ้นอยู่กับรุ่น) Logic ควบคุม ส่วนใหญ่เป็น Active LOW (ส่งสัญญาณ LOW เพื่อเปิด) Optocoupler มีในบางรุ่น (แนะนำให้ใช้รุ่นที่มี) ขา Output NO (Normally Open), NC (Normally Closed), COM (Common) การใช้งาน Relay กับ Arduino การต่อสาย (ฝั่งควบคุม) ตัวอย่างการต่อโมดูลรีเลย์ 1 Channel: VCC → ต่อเข้ากับขา 5V จาก Arduino GND → ต่อเข้ากับขา GND จาก Arduino IN1

  • ขาย -32% DC water pump 3-5V for Arduino, ESP32, and Raspberry Pi projects with free resistor.

    Global Pi Shop ปั๊มน้ำ DC 3.3V/5V สำหรับ Arduino ESP

    DC Water Pump (3V-5V): คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับชาว Maker DC Water Pump คืออะไร? DC Water Pump คือ ปั๊มน้ำขนาดเล็กที่ทำงานด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่นิยมอย่างมากในงาน DIY และโปรเจคด้านอิเล็กทรอนิกส์ เหมาะสำหรับการดูดและส่งน้ำจากภาชนะหนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เช่น: ระบบรดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ ระบบน้ำไหลเวียนสำหรับตู้ปลา หรือถังน้ำ เครื่องให้อาหารสัตว์เลี้ยงอัตโนมัติ โปรเจคที่ต้องการการควบคุมการไหลของของเหลว สามารถควบคุมการทำงานผ่านไมโครคอนโทรลเลอร์อย่าง Arduino, ESP8266, ESP32 ได้ง่ายๆ โดยต่อผ่านโมดูลควบคุม เช่น Relay หรือ Transistor Module เพื่อจัดการกับกระแสไฟฟ้าที่สูงกว่าขา I/O จะจ่ายไหว ⚠️ ข้อควรจำที่สำคัญ ควรใช้งาน DC Pump ร่วมกับ ทรานซิสเตอร์หรือ Relay Module เสมอ เนื่องจากปั๊มน้ำกินกระแสไฟฟ้ามากเกินกว่าที่ขา I/O ของ Arduino จะสามารถจ่ายได้โดยตรง การต่อตรงอาจทำให้บอร์ดของคุณเสียหายได้ ข้อมูลจำเพาะ (Specification) ของ DC Water Pump (3.3V / 5V) รายการ รายละเอียด แรงดันไฟฟ้าใช้งาน 3.3V – 5V (เหมาะกับ Arduino, ESP8266, ESP32) กระแสใช้งาน ~100 – 300 mA (ขึ้นอยู่กับรุ่นและภาระงาน) อัตราการไหล (Flow rate) ประมาณ 80 – 120 ลิตร/ชั่วโมง ระยะส่งน้ำแนวตั้ง (Head height) ประมาณ 0.5 – 1 เมตร วัสดุ พลาสติก ABS กันน้ำ สายไฟ 2 เส้น (แดง = VCC, ดำ = GND) การทำงานต่อเนื่อง สามารถทำงานต่อเนื่องได้ แต่ควรมีการพักเป็นระยะหากทำงานโดยไม่มีน้ำ เพื่อป้องกันความร้อนสะสม การใช้งานกับ Arduino ✅ การต่อวงจรด้วยทรานซิสเตอร์โมดูล (เช่น IRF520, TIP120) การใช้โมดูลทรานซิสเตอร์เป็นวิธีที่นิยมและปลอดภัยในการควบคุมปั๊มน้ำ: อุปกรณ์ ต่อเข้ากับ โมดูลทรานซิสเตอร์: ขา IN ขาดิจิทัลของ Arduino (เช่น D8) โมดูลทรานซิสเตอร์: ขา VCC 5V จากแหล่งจ่ายไฟ (แนะนำให้ใช้แหล่งจ่ายแยกจาก Arduino) โมดูลทรานซิสเตอร์: ขา GND GND ของ Arduino (ต้องเชื่อมต่อ GND ร่วมกัน) สายไฟปั๊ม + (สีแดง) ต่อกับขั้ว V+ ของโมดูล สายไฟปั๊ม - (สีดำ) ต่อกับขั้ว OUT- หรือ GND ของโมดูล ✅ ตัวอย่างโค้ด Arduino เปิด-ปิดปั๊มน้ำ โค้ดนี้จะสั่งให้ปั๊มน้ำทำงานเป็นเวลา 5 วินาที และหยุดพัก 10 วินาที วนไปเรื่อยๆ // กำหนดขาที่ต่อกับโมดูลทรานซิสเตอร์ int pumpPin = 8; void setup() { // ตั้งค่าให้ pumpPin เป็น OUTPUT pinMode(pumpPin, OUTPUT); // เริ่มต้นโดยให้ปั๊มหยุดทำงาน digitalWrite(pumpPin, LOW); } void loop() { // สั่งเปิดปั๊มน้ำ digitalWrite(pumpPin, HIGH); delay(5000); // ทำงานเป็นเวลา 5 วินาที // สั่งปิดปั๊มน้ำ digitalWrite(pumpPin, LOW); delay(10000); // หยุดพักเป็นเวลา 10 วินาที } ไอเดียการประยุกต์ใช้งาน (Application Ideas) โปรเจกต์ รายละเอียดและอุปกรณ์ที่ใช้ร่วม รดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ ใช้ร่วมกับเซ็นเซอร์วัดความชื้นในดิน (Soil Moisture Sensor) เพื่อสั่งเปิด-ปิดปั๊มเมื่อดินแห้ง ระบบกรองน้ำตู้ปลาขนาดเล็ก ตั้งเวลาเปิด-ปิดเพื่อสร้างการไหลเวียนของน้ำผ่านระบบกรอง เครื่องให้น้ำสัตว์เลี้ยง ควบคุมผ่าน NodeMCU/ESP32 เพื่อสั่งงานผ่าน Wi-Fi หรือตั้งเวลาให้น้ำ ระบบน้ำหยดอัจฉริยะ เหมาะสำหรับปลูกพืชที่ต้องการการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอและแม่นยำ ✅ ข้อดี ราคาถูก น้ำหนักเบา ใช้งานง่ายกับไมโครคอนโทรลเลอร์ เช่น Arduino ขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับงาน DIY และพื้นที่จำกัด ใช้แรงดันไฟฟ้าต่ำ (3.3V / 5V) ทำให้หาแหล่งจ่ายไฟง่าย ⚠️ ข้อควรระวัง ห้ามเดินปั๊มแบบไม่มีน้ำเด็ดขาด (Dry Running) เพราะจะทำให้เกิดความร้อนสูงและมอเตอร์อาจเสียหายได้อย่างรวดเร็ว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแหล่งจ่ายไฟ (Power Supply) สามารถจ่ายกระแสได้เพียงพอ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานกับแบตเตอรี่

  • ขาย -29% DS3231 RTC module for Arduino and ESP with backup battery, ideal for DIY projects and precision timekeeping.

    Global Pi Shop DS3231 RTC โมดูลนาฬิกาสำหรับ Arduino ESP

    DS3231 RTC คืออะไร? โมดูลนาฬิกาความแม่นยำสูง DS3231 คือ โมดูลนาฬิกาเรียลไทม์ (RTC - Real Time Clock) ความแม่นยำสูง ใช้สำหรับเก็บข้อมูลวันที่และเวลาอย่างต่อเนื่องและถูกต้อง แม้ว่าแหล่งจ่ายไฟหลักของระบบจะถูกปิดหรือตัดการเชื่อมต่อออกไปก็ตาม เนื่องจากมีแบตเตอรี่สำรอง (CR2032) ในตัวเพื่อรักษาเวลาไว้ โมดูลนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับโปรเจกต์ที่ต้องการความเที่ยงตรงของเวลา เช่น ระบบบันทึกข้อมูล (Data Logger), นาฬิกาปลุก, ระบบตั้งเวลาเปิด-ปิดอุปกรณ์อัตโนมัติ และอื่นๆ สเปคของ DS3231 RTC แรงดันไฟฟ้าใช้งาน 3.3V – 5.5V (ใช้ได้ทั้ง Arduino และ Raspberry Pi) การสื่อสาร I2C (SCL, SDA) ความแม่นยำ ±2 นาทีต่อปี (แม่นยำกว่า DS1307 มาก) แบตเตอรี่สำรอง CR2032 (รักษาเวลาได้นานหลายปีแม้ไม่มีไฟเลี้ยง) ช่วงปีที่รองรับ ค.ศ. 2000 – 2099 คุณสมบัติพิเศษ มีวงจรชดเชยอุณหภูมิในตัว (Temperature-compensated) ทำให้เวลาไม่เพี้ยนตามอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป การใช้งานกับ Arduino ✅ การต่อสายกับ Arduino UNO ขาบน DS3231 ต่อกับขาบน Arduino UNO VCC 5V GND GND SDA A4 SCL A5 หมายเหตุ: Arduino รุ่นอื่นอาจใช้ขา I2C ที่แตกต่างกัน (เช่น Mega 2560 ใช้ขา 20, 21) กรุณาตรวจสอบ Pinout ของบอร์ดที่ใช้ ✅ ตัวอย่างโค้ด Arduino ต้องติดตั้งไลบรารี RTClib by Adafruit ก่อนใช้งานผ่าน Library Manager ของ Arduino IDE #include <Wire.h> #include <RTClib.h> RTC_DS3231 rtc; void setup() { Serial.begin(9600); Wire.begin(); rtc.begin(); // ----- ตั้งเวลาเริ่มต้น (สำคัญมาก!) ----- // หากเป็นครั้งแรก ให้ยกเลิกคอมเมนต์บรรทัดล่างนี้เพื่อตั้งเวลาปัจจุบัน // จากนั้นคอมเมนต์กลับเหมือนเดิม แล้วอัปโหลดโค้ดอีกครั้ง // rtc.adjust(DateTime(F(__DATE__), F(__TIME__))); // ตรวจสอบว่าไฟเคยดับหรือไม่ if (rtc.lostPower()) { Serial.println("RTC lost power, let's set the time!"); // ตั้งเวลาเริ่มต้นหากไม่มีการตั้งค่ามาก่อน // rtc.adjust(DateTime(2025, 8, 7, 10, 0, 0)); } } void loop() { DateTime now = rtc.now(); Serial.print(now.year(), DEC); Serial.print('/'); Serial.print(now.month(), DEC); Serial.print('/'); Serial.print(now.day(), DEC); Serial.print(" "); Serial.print(now.hour(), DEC); Serial.print(':'); Serial.print(now.minute(), DEC); Serial.print(':'); Serial.println(now.second(), DEC); delay(1000); } ข้อควรจำ: บรรทัด rtc.adjust(...) ใช้สำหรับตั้งเวลาเริ่มต้นให้กับโมดูลเพียง "ครั้งเดียว" เท่านั้น หลังจากอัปโหลดโค้ดครั้งแรกเพื่อให้เวลาตรงแล้ว ให้ใส่คอมเมนต์ (//) นำหน้าบรรทัดนั้น แล้วอัปโหลดโค้ดอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เวลาถูกรีเซ็ตใหม่ทุกครั้งที่บอร์ดเริ่มทำงาน การใช้งานกับ Raspberry Pi ✅ การติดตั้งและตรวจสอบ เปิด Terminal และรันคำสั่งต่อไปนี้: sudo apt-get update sudo apt-get install i2c-tools python3-smbus จากนั้นตรวจสอบว่า Raspberry Pi มองเห็นโมดูลหรือไม่: sudo i2cdetect -y 1 หากการเชื่อมต่อถูกต้อง คุณจะเห็นเลข 0x68 ปรากฏบนตาราง ซึ่งเป็น I2C Address ของ DS3231 หลังจากนั้นสามารถใช้ไลบรารี Python เช่น adafruit-circuitpython-ds3231 เพื่อเขียนโปรแกรมอ่านและตั้งค่าเวลาได้ ไอเดียการประยุกต์ใช้งาน โปรเจกต์ การใช้งาน RTC Data Logger บันทึกค่าจากเซนเซอร์ต่างๆ พร้อมประทับเวลา (Timestamp) ที่แม่นยำ ระบบเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติ ตั้งเวลาเปิดไฟตอน 18:00 น. และปิดตอน 06:00 น. ของทุกวัน นาฬิกา DIY สร้างนาฬิกาดิจิทัลของตัวเองโดยแสดงผลบนจอ LCD หรือ OLED ระบบรดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ สั่งให้ปั๊มน้ำทำงานตามเวลาที่กำหนดไว้ เช่น 07:00 น. และ 17:00 น. ระบบเตือนหรือนาฬิกาปลุก ตั้งเวลาเพื่อให้ Buzzer, LED หรืออุปกรณ์อื่นๆ ทำงานเมื่อถึงเวลาที่กำหนด ข้อดีของ DS3231 แม่นยำสูงมาก เมื่อเทียบกับ RTC รุ่นยอดนิยมอย่าง DS1307 มีแบตเตอรี่สำรอง ทำให้เวลาเดินต่อเนื่องแม้ไม่มีไฟเลี้ยง ใช้งานได้หลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Arduino, ESP32, Raspberry Pi และอื่นๆ สื่อสารผ่าน I2C ทำให้ประหยัดขาและสามารถต่ออุปกรณ์อื่นบนบัสเดียวกันได้

    70.00 ฿ 50.00 ฿

  • ขาย -52% โมดูล Active Buzzer Sensor สำหรับ Arduino Pi ESP พร้อมสายฟรี และการเชื่อมต่อที่ง่าย

    Global Pi Shop โมดูล Active Buzzer Sensor สำหรับ Arduino Pi ESP

    Active Buzzer คืออะไร? วิธีสร้างเสียงแจ้งเตือนด้วย Arduino Active Buzzer (แอคทีฟบัซเซอร์) คือ อุปกรณ์กำเนิดเสียงประเภทหนึ่งที่ใช้งานง่ายมาก โดยจุดเด่นของมันคือมีวงจรสร้างความถี่เสียง (Oscillator) อยู่ภายในตัว ทำให้เราไม่ต้องเขียนโค้ดที่ซับซ้อนเพื่อสร้างความถี่เสียงเอง เพียงแค่จ่ายไฟเลี้ยง 3.3V-5V หรือส่งสัญญาณลอจิก "HIGH" จากไมโครคอนโทรลเลอร์เข้าไป Buzzer ก็จะส่งเสียง "ปี๊บ" แหลมๆ ออกมาได้ทันที ความแตกต่างระหว่าง Active vs Passive Buzzer Active Buzzer (ตัวนี้): มีวงจรสร้างเสียงในตัว แค่จ่ายไฟก็ดังทันที เหมาะกับเสียงเตือนง่ายๆ ที่มีความถี่เดียว Passive Buzzer: ไม่มีวงจรในตัว เป็นแค่ตัวกำเนิดเสียงเปล่าๆ ผู้ใช้ต้องเขียนโค้ดสร้างสัญญาณความถี่ (PWM) จาก Arduino เพื่อป้อนให้มันถึงจะมีเสียง เหมาะกับการสร้างเสียงที่มีหลายระดับโน้ตดนตรี สเปคของ Active Buzzer Module รายการ รายละเอียด แรงดันใช้งาน 3.3V – 5V (เหมาะกับ Arduino โดยตรง) กระแสใช้งาน ประมาณ 20 mA ประเภท Active Buzzer (มีวงจรสร้างเสียงในตัว) ความถี่เสียง ~2 – 3 kHz (เสียงแหลมมาตรฐาน) ระดับเสียง ประมาณ 85 dB @ 10 ซม. รูปแบบขา แบบโมดูล 3 ขา (VCC, GND, I/O) สถานะเสียง ส่งเสียงเมื่อขาอินพุตเป็น HIGH (หรือ LOW ขึ้นอยู่กับรุ่น) การใช้งานกับ Arduino ✅ การต่อสาย (โมดูล A322) VCC (หรือ +) → ต่อกับขา 5V บนบอร์ด Arduino GND (หรือ -) → ต่อกับขา GND บนบอร์ด Arduino I/O (หรือ S) → ต่อกับขาดิจิทัล (Digital Pin) ขาใดก็ได้ เช่น D8 ✅ ตัวอย่างโค้ดใช้งานง่าย โค้ดนี้จะสั่งให้ Buzzer ส่งเสียงดัง 1 วินาที และเงียบ 1 วินาที สลับกันไป // กำหนดขาที่ต่อกับ I/O ของ Buzzer int buzzerPin = 8; void setup() { // ตั้งค่าให้ buzzerPin เป็น OUTPUT pinMode(buzzerPin, OUTPUT); } void loop() { // สั่งเปิดเสียง Buzzer digitalWrite(buzzerPin, HIGH); delay(1000); // เปิดเสียงค้างไว้ 1 วินาที // สั่งปิดเสียง Buzzer digitalWrite(buzzerPin, LOW); delay(1000); // หยุดพัก 1 วินาที } ไอเดียการประยุกต์ใช้งาน โปรเจกต์ รายละเอียดการใช้งาน ระบบแจ้งเตือนภัย ใช้เป็นเสียง Alarm เมื่อเซนเซอร์ควัน, แก๊ส, หรือความร้อนตรวจพบค่่าผิดปกติ เครื่องจับความเคลื่อนไหว ส่งเสียงเตือนเมื่อเซนเซอร์ PIR (Passive Infrared) ตรวจจับการเคลื่อนไหวได้ ระบบเตือนระดับน้ำ ส่งเสียงดังเมื่อเซนเซอร์วัดระดับน้ำตรวจพบว่าน้ำสูงถึงจุดที่กำหนด นาฬิกาปลุก DIY ใช้เป็นตัวกำเนิดเสียงสำหรับปลุกตามเวลาที่ตั้งไว้ เสียงแจ้งสถานะ ใช้ส่งเสียง "ปี๊บ"สั้นๆ เพื่อยืนยันการทำงาน เช่น กดรหัสผ่านถูก, สแกนบัตรสำเร็จ ข้อดีของ Active Buzzer ใช้งานง่ายที่สุด: แค่จ่ายไฟหรือส่งสัญญาณ HIGH ก็มีเสียงดังทันที โค้ดไม่ซับซ้อน: ไม่จำเป็นต้องใช้คำสั่งสร้างความถี่ (PWM) ที่ยุ่งยาก ราคาถูก: เป็นวิธีเพิ่มเสียงแจ้งเตือนให้โปรเจกต์ที่ประหยัดที่สุด อเนกประสงค์: เหมาะกับงานแจ้งเตือนทุกรูปแบบที่ต้องการเสียงความถี่เดียว

    25.00 ฿ 12.00 ฿

  • ขาย -32% IR Infrared Sensor module for Arduino, featuring a compact design and LED indicators, ideal for object detection projects.

    Global Pi Shop เซ็นเซอร์ IR อินฟราเรด สำหรับ Arduino Pi ESP32

    IR Infrared Sensor คืออะไร? วิธีใช้งานตรวจจับวัตถุด้วย Arduino IR Sensor หรือ เซ็นเซอร์อินฟราเรด คือเซ็นเซอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่นิยมใช้ในการตรวจจับวัตถุในระยะใกล้ หรือใช้ตรวจจับการสะท้อนของแสงอินฟราเรด เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่สำคัญสำหรับโปรเจกต์หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติต่างๆ หลักการทำงานของ IR Sensor การทำงานของเซนเซอร์นั้นตรงไปตรงมาและเข้าใจง่าย: ภาคส่ง (Transmitter): โมดูลจะปล่อยลำแสงอินฟราเรด (ซึ่งตาคนมองไม่เห็น) ออกไปจากตัวส่ง (IR LED) ภาครับ (Receiver): เมื่อลำแสงนั้นไปกระทบกับวัตถุ มันจะสะท้อนกลับมา และถูกตรวจจับโดยตัวรับแสงอินฟราเรด (Photodiode หรือ Phototransistor) การส่งสัญญาณ: เมื่อภาครับตรวจจับแสงสะท้อนได้ วงจรบนโมดูลจะส่งสัญญาณดิจิทัล (0 หรือ 1) ออกมาที่ขา OUT เพื่อแจ้งให้ไมโครคอนโทรลเลอร์ (เช่น Arduino) ทราบว่า "มีวัตถุอยู่ด้านหน้า" สเปคของ IR Sensor Module (สำหรับ Arduino) รายการ รายละเอียด แรงดันใช้งาน 3.3V – 5V (ใช้ไฟจากบอร์ด Arduino ได้โดยตรง) ระยะตรวจจับ ประมาณ 2 – 30 ซม. (ขึ้นอยู่กับสีและความเรียบของผิววัตถุ) เอาต์พุต ดิจิทัล (Digital) ส่งค่า 0 หรือ 1 การปรับความไว สามารถปรับได้ด้วยตัวต้านทานปรับค่าได้ (VR) บนบอร์ด ไฟแสดงสถานะ มี LED แสดงสถานะการทำงาน (มักจะสว่างเมื่อตรวจพบวัตถุ) อินเตอร์เฟส 3 ขา: VCC, GND, OUT การใช้งานกับ Arduino ✅ การต่อสาย VCC → ต่อกับขา 5V บนบอร์ด Arduino GND → ต่อกับขา GND บนบอร์ด Arduino OUT → ต่อกับขาดิจิทัล (Digital Pin) ขาใดก็ได้ เช่น D2 ✅ ตัวอย่างโค้ดใช้งานง่าย โค้ดนี้จะอ่านค่าจาก IR Sensor และเมื่อตรวจพบวัตถุ จะสั่งให้ LED บนบอร์ด (ขา 13) ติดสว่าง พร้อมทั้งแสดงข้อความใน Serial Monitor int irPin = 2; // ขาที่รับสัญญาณจากเซนเซอร์ int ledPin = 13; // LED Build-in บนบอร์ด Arduino void setup() { pinMode(irPin, INPUT); // กำหนดให้ขา irPin เป็น Input pinMode(ledPin, OUTPUT); // กำหนดให้ขา ledPin เป็น Output Serial.begin(9600); // เริ่มการสื่อสารแบบ Serial } void loop() { int objectState = digitalRead(irPin); // อ่านค่าจากเซนเซอร์ // ตรวจสอบสถานะ: เซนเซอร์บางรุ่นจะให้ค่า LOW เมื่อเจอวัตถุ if (objectState == LOW) { digitalWrite(ledPin, HIGH); // เปิด LED Serial.println("พบวัตถุ!"); } else { digitalWrite(ledPin, LOW); // ปิด LED Serial.println("ไม่พบวัตถุ"); } delay(200); // หน่วงเวลาเพื่อลดการอ่านค่าที่เร็วเกินไป } หมายเหตุ: เอาต์พุตของ IR Sensor แต่ละรุ่นอาจแตกต่างกัน บางรุ่นส่งค่า LOW (0) เมื่อเจอวัตถุ แต่บางรุ่นอาจส่งค่า HIGH (1) แนะนำให้ทดลองเพื่อตรวจสอบการทำงานของเซนเซอร์ที่คุณมี ไอเดียการประยุกต์ใช้งาน (Application Ideas) โปรเจกต์ รายละเอียดการใช้งาน หุ่นยนต์เดินตามเส้น ใช้ IR Sensor หลายตัวติดไว้ใต้หุ่นยนต์เพื่อตรวจจับเส้นสีดำบนพื้นสีขาว หุ่นยนต์หลบสิ่งกีดขวาง ติดตั้งไว้ด้านหน้าหุ่นยนต์เพื่อตรวจจับกำแพงหรือสิ่งของแล้วสั่งให้เลี้ยวหลบ เครื่องนับจำนวนสินค้า ติดตั้งไว้ข้างสายพานลำเลียง เพื่อนับจำนวนสินค้าที่เคลื่อนที่ผ่าน ระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ใช้ตรวจจับมือหรือวัตถุที่เข้ามาใกล้เพื่อสั่งเปิดก๊อกน้ำ หรือถังขยะ สวิตช์ไร้สัมผัส (Touchless Switch) ใช้แทนปุ่มกด เพื่อลดการสัมผัส เหมาะสำหรับยุคปัจจุบัน ข้อดีของ IR Sensor ราคาถูกมาก หาซื้อง่าย ใช้งานง่าย มีเพียง 3 ขา และโค้ดไม่ซับซ้อน ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ใช้ได้กับไมโครคอนโทรลเลอร์หลากหลาย เช่น Arduino, ESP8266, ESP32

    25.00 ฿ 17.00 ฿

  • ขาย -27% SG90 Servo Motor for Arduino with connection cable, ideal for projects requiring precise control from 0-180 degrees.

    Global Pi Shop SG90 Servo Motor สำหรับ Arduino Raspberry Pi

    SG90 Servo Motor คืออะไร? วิธีควบคุมการหมุนด้วย Arduino SG90 คือ เซอร์โวมอเตอร์ขนาดเล็ก (Micro Servo Motor) ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในงานอดิเรกและโปรเจกต์อิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ราคาถูก และใช้งานง่าย ความสามารถหลักของมันคือการหมุนไปยังตำแหน่งที่เป็นองศาที่กำหนดไว้ได้อย่างแม่นยำ (เช่น 0°, 45°, 90°, 180°) เหมาะสำหรับงานที่ต้องการควบคุมการเคลื่อนไหวแบบเชิงมุม เช่น การหันกล้อง, การขยับแขนหุ่นยนต์, หรือการควบคุมพวงมาลัยของรถบังคับ ความแตกต่างระหว่าง Servo Motor และ DC Motor Servo Motor (เซอร์โว): หมุนไปยัง "ตำแหน่ง" ที่สั่ง และหยุดค้างตำแหน่งนั้นไว้ได้ (เช่น หมุนไป 90° แล้วหยุด) โดยมีองศาการหมุนที่จำกัด (ส่วนใหญ่ 0°-180°) DC Motor (มอเตอร์ปกติ): หมุน "ต่อเนื่อง" ไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังจ่ายไฟให้ และไม่สามารถควบคุมตำแหน่งที่แน่นอนได้ สเปคของ SG90 แรงดันไฟฟ้าใช้งาน 4.8V – 6.0V (ใช้ไฟ 5V จาก Arduino ได้เลย) องศาการหมุน ประมาณ 0° – 180° แรงบิด (Torque) ~1.8 kg/cm (ที่ 4.8V) ความเร็วในการหมุน ~0.1 วินาที ต่อ 60 องศา น้ำหนัก ประมาณ 9 กรัม ขนาด ประมาณ 23 × 12 × 29 มม. สายไฟ (3 เส้น) น้ำตาล (GND), แดง (VCC), ส้ม (สัญญาณ PWM) การใช้งานกับ Arduino ✅ การต่อสาย (3 เส้น) สีสายของ SG90 เชื่อมต่อกับ Arduino น้ำตาล (GND) GND แดง (VCC) 5V ส้ม (Signal) ขา PWM (เช่น ~D9) ✅ ตัวอย่างโค้ด Arduino (หมุน 0°, 90°, 180°) โค้ดนี้ใช้ไลบรารี Servo.h ซึ่งเป็นไลบรารีมาตรฐานที่มาพร้อมกับ Arduino IDE ไม่ต้องติดตั้งเพิ่ม #include <Servo.h> // สร้าง object สำหรับควบคุม Servo Servo myServo; void setup() { // กำหนดขาที่ต่อกับสายสัญญาณของ Servo (ต้องเป็นขา PWM) myServo.attach(9); } void loop() { // สั่งให้ Servo หมุนไปที่ตำแหน่ง 0 องศา myServo.write(0); delay(1000); // รอ 1 วินาที // สั่งให้ Servo หมุนไปที่ตำแหน่ง 90 องศา myServo.write(90); delay(1000); // รอ 1 วินาที // สั่งให้ Servo หมุนไปที่ตำแหน่ง 180 องศา myServo.write(180); delay(1000); // รอ 1 วินาที } 💡 การประยุกต์ใช้งาน โปรเจกต์ รายละเอียดการใช้งาน แขนกลหุ่นยนต์ ใช้เป็นข้อต่อสำหรับหมุนข้อศอก, ข้อมือ, หรือฐานของแขนกล ระบบเปิด-ปิดประตูอัตโนมัติ ใช้ Servo หมุนกลอนเพื่อล็อค/ปลดล็อคประตูขนาดเล็ก หุ่นยนต์/รถบังคับ ใช้ควบคุมทิศทางการเลี้ยวของล้อหน้า ระบบติดตามวัตถุ ใช้สำหรับหันกล้องหรือเซนเซอร์อัลตร้าโซนิคไปในทิศทางต่างๆ เครื่องคัดแยก/หยอดเหรียญ ใช้เปิด-ปิดช่องทางเพื่อปล่อยสิ่งของตามคำสั่ง ✅ ข้อดีของ SG90 ราคาถูกมาก น้ำหนักเบา และกินไฟน้อย ควบคุมง่าย ผ่านไลบรารี Servo.h มาตรฐานของ Arduino ควบคุมตำแหน่งได้แม่นยำ เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดเชิงมุม เป็นที่นิยมสูง หาซื้อง่ายและมีตัวอย่างโปรเจกต์ให้ศึกษามากมาย

    55.00 ฿ 40.00 ฿

  • ขาย -38% L298N Motor Driver Module for arduino

    Global Pi Shop L298N Motor Driver Module for arduino

    L298N Motor Driver Module คืออะไร? วิธีควบคุมมอเตอร์ด้วย Arduino L298N Motor Driver คือโมดูลขับมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงที่นิยมใช้ในโปรเจกต์หุ่นยนต์และระบบควบคุมต่างๆ สามารถใช้ควบคุมความเร็วและทิศทางการหมุนของมอเตอร์กระแสตรง (DC Motor) ได้พร้อมกัน 2 ตัว หรือควบคุม Stepper Motor ได้ 1 ตัว โดยรับคำสั่งจากบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ เช่น Arduino หัวใจหลักของโมดูลนี้คือชิป L298N ซึ่งภายในเป็นวงจรแบบ H-Bridge ทำให้สามารถสลับขั้วไฟฟ้าที่จ่ายให้มอเตอร์ได้ ส่งผลให้เราสั่งให้มอเตอร์หมุนเดินหน้าหรือถอยหลังได้อย่างอิสระ สเปคของ L298N ชิปควบคุมหลัก L298N Dual H-Bridge Driver แรงดันสำหรับมอเตอร์ 5V – 35V DC แรงดันลอจิกควบคุม 5V (เหมาะกับ Arduino โดยตรง) กระแสสูงสุดต่อช่อง 2A (ต่อเนื่องแนะนำไม่เกิน 1.5A) จำนวนมอเตอร์ DC Motor 2 ตัว หรือ Stepper Motor 1 ตัว Regulator 5V ในตัว มี (สามารถจ่ายไฟ 5V ให้ Arduino ได้) ช่องอินพุตควบคุม IN1, IN2, IN3, IN4, ENA, ENB ช่องเอาต์พุตมอเตอร์ OUT1, OUT2, OUT3, OUT4 การใช้งานกับ Arduino ✅ การต่อสายควบคุมมอเตอร์ DC 2 ตัว ขาบน L298N หน้าที่ / ต่อกับอะไร ENA ควบคุมความเร็วมอเตอร์ A (ต่อกับขา PWM ของ Arduino เช่น D5) IN1, IN2 ควบคุมทิศทางมอเตอร์ A (ต่อกับขา Digital เช่น D8, D9) ENB ควบคุมความเร็วมอเตอร์ B (ต่อกับขา PWM ของ Arduino เช่น D6) IN3, IN4 ควบคุมทิศทางมอเตอร์ B (ต่อกับขา Digital เช่น D10, D11) OUT1, OUT2 ต่อกับขั้วของมอเตอร์ A OUT3, OUT4 ต่อกับขั้วของมอเตอร์ B 12V (VCC) ต่อกับแหล่งจ่ายไฟสำหรับมอเตอร์ (เช่น แบตเตอรี่ 7V-12V) GND ต่อกับกราวด์ของแหล่งจ่ายไฟมอเตอร์ และต่อร่วมกับ GND ของ Arduino 5V เป็น Output 5V จาก Regulator (เมื่อใส่ Jumper 5V-EN) การใช้งาน Jumper 5V-EN: ใส่ Jumper ไว้ (ค่าเริ่มต้น): เมื่อใช้แหล่งจ่ายไฟมอเตอร์ มากกว่า 7V วงจร Regulator บนบอร์ดจะทำงานและสร้างไฟ 5V ออกมาที่ขา 5V ซึ่งเราสามารถนำไฟนี้ไปเลี้ยงบอร์ด Arduino ได้เลย ถอด Jumper ออก: เมื่อใช้แหล่งจ่ายไฟมอเตอร์ เท่ากับ 5V หรือเมื่อต้องการจ่ายไฟ 5V ให้บอร์ด L298N และ Arduino แยกกัน ✅ ตัวอย่างโค้ดควบคุมมอเตอร์ A โค้ดนี้จะทำให้มอเตอร์ A หมุนไปข้างหน้า 2 วินาที, ถอยหลัง 2 วินาที, และหยุด 2 วินาที วนไปเรื่อยๆ // กำหนดขาสำหรับควบคุมมอเตอร์ A const int ena = 5; // ขา PWM สำหรับควบคุมความเร็ว const int in1 = 8; // ขาควบคุมทิศทาง 1 const int in2 = 9; // ขาควบคุมทิศทาง 2 void setup() { // ตั้งค่าทุกขาเป็น OUTPUT pinMode(ena, OUTPUT); pinMode(in1, OUTPUT); pinMode(in2, OUTPUT); } void loop() { // --- หมุนเดินหน้า --- digitalWrite(in1, HIGH); digitalWrite(in2, LOW); analogWrite(ena, 200); // กำหนดความเร็ว (ค่าระหว่าง 0-255) delay(2000); // --- หมุนถอยหลัง --- digitalWrite(in1, LOW); digitalWrite(in2, HIGH); analogWrite(ena, 150); // ลดความเร็วลง delay(2000); // --- หยุดหมุน --- digitalWrite(in1, LOW); digitalWrite(in2, LOW); // analogWrite(ena, 0); // หรือจะใช้คำสั่งนี้เพื่อหยุดก็ได้ delay(2000); } 🛠️ การประยุกต์ใช้งาน สร้างหุ่นยนต์อัตโนมัติ เช่น หุ่นยนต์หลบหลีกสิ่งกีดขวาง, หุ่นยนต์เดินตามเส้น สร้างรถบังคับวิทยุที่ควบคุมผ่าน Bluetooth หรือ Wi-Fi ระบบควบคุมความเร็วและทิศทางของพัดลม DC โปรเจกต์แขนกลที่ควบคุมด้วย DC Motor หรือ Stepper Motor ระบบเปิด-ปิดประตูหรือหน้าต่างอัตโนมัติ ⭐ ข้อดีของ L298N รองรับแรงดันและกระแสไฟได้สูง เหมาะกับมอเตอร์หลากหลายขนาด ใช้งานง่าย มีไลบรารีและตัวอย่างโค้ดให้ศึกษามากมาย มีวงจร Regulator 5V ในตัว ช่วยลดความซับซ้อนในการจ่ายไฟให้วงจร ราคาถูกและเป็นที่นิยม หาซื้อง่าย

    65.00 ฿ 40.00 ฿

  • ขาย -38% PIR HC-SR501 motion sensor for arduino

    Global Pi Shop PIR HC-SR501 motion sensor for arduino

    PIR Sensor HC-SR501 คืออะไร? วิธีใช้งานกับ Arduino HC-SR501 คือเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว (Motion Sensor) ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ทำงานโดยใช้หลักการของ PIR (Passive Infrared) ซึ่งหมายถึงเป็นเซนเซอร์ที่คอย "รับ" หรือ "ดักจับ" รังสีอินฟราเรดที่แผ่ออกมาจากวัตถุที่มีความร้อน เช่น ร่างกายของมนุษย์หรือสัตว์ โดยตัวมันเองไม่ได้ปล่อยรังสีใดๆ ออกไป เมื่อมีคนหรือสัตว์เคลื่อนที่ผ่านหน้าเซนเซอร์ จะทำให้ปริมาณรังสีอินฟราเรดที่ตกกระทบมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว วงจรภายในจะตรวจจับการเปลี่ยนแปลงนี้และส่งสัญญาณลอจิก "HIGH" ออกมา เพื่อแจ้งให้ไมโครคอนโทรลเลอร์ทราบว่า "มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น" สเปคของ HC-SR501 แรงดันใช้งาน 4.5V – 20V DC (ใช้กับ 5V ของ Arduino ได้เลย) แรงดันลอจิกเอาต์พุต 3.3V (แต่เพียงพอสำหรับขา Digital ของ Arduino อ่านค่า HIGH ได้) กระแสที่ใช้ ~50 μA (ประหยัดพลังงานมาก เหมาะกับงานแบตเตอรี่) ระยะตรวจจับ ปรับได้ประมาณ 3 ถึง 7 เมตร (ปรับด้วย Potentiometer สีส้ม) มุมตรวจจับ ประมาณ 120 องศา (รูปกรวย) เวลาหน่วง (Delay Time) ปรับได้ประมาณ 0.3 วินาที ถึง 5 นาที (ปรับด้วย Potentiometer สีส้ม) โหมดการทำงาน ปรับได้ 2 โหมด ด้วย Jumper บนบอร์ด การปรับโหมดการทำงาน (สำคัญมาก) บนบอร์ดจะมี Jumper ให้เลือกโหมดได้ 2 แบบ: Repeatable (H): หาก Jumper อยู่ตำแหน่ง H (ค่าเริ่มต้น) เซนเซอร์จะส่งสัญญาณ HIGH "ตลอดเวลา" ที่ยังคงตรวจจับการเคลื่อนไหวได้ และจะเริ่มนับเวลาหน่วงใหม่ทุกครั้งที่เจอการเคลื่อนไหวซ้ำ (เหมาะกับไฟอัตโนมัติ) Non-Repeatable (L): หาก Jumper อยู่ตำแหน่ง L เซนเซอร์จะส่งสัญญาณ HIGH เพียง "ครั้งเดียว" ตามเวลาหน่วงที่ตั้งไว้ แม้จะยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ก็ตาม จากนั้นจะส่ง LOW และรอสักครู่ก่อนจะเริ่มตรวจจับใหม่ (เหมาะกับระบบเตือนภัย) การใช้งานกับ Arduino ✅ การต่อสายกับ Arduino ขาบน HC-SR501 ต่อกับขาบน Arduino VCC 5V GND GND OUT ขา Digital ใดก็ได้ (เช่น D2) ✅ ตัวอย่างโค้ด Arduino (ตรวจจับการเคลื่อนไหว) โค้ดนี้จะอ่านค่าจาก PIR Sensor และเมื่อตรวจพบการเคลื่อนไหว จะสั่งให้ LED บนบอร์ด (ขา 13) ติดสว่าง // กำหนดขาที่เชื่อมต่อ const int pirPin = 2; // ขาที่รับสัญญาณจาก OUT ของ PIR Sensor const int ledPin = 13; // ขา LED Build-in บนบอร์ด Arduino void setup() { pinMode(pirPin, INPUT); // กำหนดให้ขา pirPin เป็น Input pinMode(ledPin, OUTPUT); // กำหนดให้ขา ledPin เป็น Output Serial.begin(9600); // เริ่มการสื่อสารแบบ Serial Serial.println("PIR Motion Sensor Test"); } void loop() { // อ่านค่าสถานะจาก PIR Sensor int motionState = digitalRead(pirPin); // ตรวจสอบสถานะ if (motionState == HIGH) { digitalWrite(ledPin, HIGH); // เปิด LED Serial.println("ตรวจพบการเคลื่อนไหว!"); } else { digitalWrite(ledPin, LOW); // ปิด LED Serial.println("สถานะปกติ..."); } // หน่วงเวลาเพื่อลดการแสดงผลที่เร็วเกินไป delay(500); } 💡 การประยุกต์ใช้งาน โปรเจกต์ รายละเอียดการใช้งาน ระบบเตือนภัยบุกรุก ส่งเสียงเตือนหรือแจ้งเตือนผ่าน Line เมื่อมีคนเดินผ่านในบริเวณที่กำหนด ไฟทางเดิน/ห้องน้ำอัตโนมัติ เปิดไฟเมื่อมีคนเดินเข้ามาในพื้นที่ และปิดไฟเมื่อไม่พบการเคลื่อนไหวแล้ว ระบบบ้านอัจฉริยะ ใช้เป็นตัวกระตุ้น (Trigger) เพื่อสั่งงานอุปกรณ์อื่น เช่น เปิดแอร์, เปิดพัดลม เมื่อมีคนอยู่ในห้อง กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ สั่งให้ ESP32-CAM หรือกล้องอื่นเริ่มบันทึกภาพเมื่อตรวจพบการเคลื่อนไหว ระบบประหยัดพลังงาน ใช้ปลุกไมโครคอนโทรลเลอร์ (เช่น ESP32) จากโหมด Deep Sleep เมื่อมีคนเข้ามาใกล้ ⭐ ข้อดีของ HC-SR501 ใช้งานง่าย: มีเพียง 3 ขา และให้สัญญาณเป็น Digital ทำให้เขียนโค้ดไม่ซับซ้อน ประหยัดพลังงานมาก: ใช้กระแสไฟน้อยมากในสถานะสแตนด์บาย เหมาะกับงานที่ใช้แบตเตอรี่ ปรับแต่งได้: สามารถปรับระยะการตรวจจับและเวลาหน่วงได้ตามความต้องการของโปรเจกต์ เข้ากันได้ดี: ทำงานได้กับ Arduino, ESP8266, ESP32, และ Raspberry Pi

    65.00 ฿ 40.00 ฿

  • ขาย -40% Micro SD Card Module for arduino

    Global Pi Shop Micro SD Card Module for arduino

    Micro SD Card Module คืออะไร? วิธีบันทึกข้อมูลด้วย Arduino Micro SD Card Module คือโมดูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้ไมโครคอนโทรลเลอร์ เช่น บอร์ด Arduino สามารถอ่านและเขียนข้อมูลลงบนการ์ด Micro SD ได้โดยตรง ทำให้โปรเจกต์ของเราสามารถจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากได้ เช่น ค่าที่อ่านจากเซนเซอร์ต่างๆ, การบันทึกเหตุการณ์ (Event Log), หรือแม้กระทั่งไฟล์รูปภาพและเสียง โมดูลนี้มักจะมีวงจรแปลงระดับแรงดันไฟฟ้า (Logic Level Shifter) ในตัว ทำให้สามารถทำงานกับบอร์ดที่ใช้ไฟ 5V ได้อย่างปลอดภัย และสื่อสารผ่านโปรโตคอลมาตรฐานที่เรียกว่า SPI (Serial Peripheral Interface) สเปคของ Micro SD Card Module แรงดันไฟเลี้ยง 3.3V – 5V (ใช้กับ Arduino ได้โดยตรง) อินเตอร์เฟส SPI (MISO, MOSI, SCK, CS) ความจุที่รองรับ การ์ด Micro SD สูงสุด 32GB (ฟอร์แมตแบบ FAT16 หรือ FAT32) ระดับแรงดันลอจิก มีวงจรแปลงระดับแรงดัน 5V → 3.3V ในตัว ขาเชื่อมต่อ VCC, GND, MISO, MOSI, SCK, CS ประเภทการ์ด รองรับการ์ด Micro SD และ Micro SDHC ขนาดมาตรฐาน การใช้งานกับ Arduino ✅ 1. การต่อสายกับ Arduino Uno ขาบน SD Module ขาบน Arduino Uno หน้าที่ VCC 5V ไฟเลี้ยงโมดูล GND GND กราวด์ MISO Pin 12 Master In Slave Out MOSI Pin 11 Master Out Slave In SCK Pin 13 Serial Clock CS Pin 10 Chip Select (สามารถเปลี่ยนเป็นขาอื่นได้) **สำหรับบอร์ดอื่น เช่น ESP32 หรือ Mega2560, ขา SPI อาจอยู่ตำแหน่งอื่น กรุณาตรวจสอบ Pinout ของบอร์ดที่ใช้งาน ✅ 2. ตัวอย่างโค้ด Arduino (บันทึกข้อความลงการ์ด) โค้ดนี้ใช้ไลบรารี SD.h ที่มาพร้อมกับ Arduino IDE เพื่อเขียนข้อความลงในไฟล์ชื่อ "data.txt" #include <SPI.h> #include <SD.h> // กำหนดขา Chip Select (CS) // หากต่อขา CS ไว้ที่ขาอื่น ให้เปลี่ยนเลขตรงนี้ const int chipSelect = 10; void setup() { // เริ่มการสื่อสารแบบ Serial เพื่อดูสถานะ Serial.begin(9600); Serial.print("Initializing SD card..."); // เริ่มต้นการทำงานของ SD Card if (!SD.begin(chipSelect)) { Serial.println("initialization failed!"); while (1); // วนลูปไม่รู้จบหากหาการ์ดไม่เจอ } Serial.println("initialization done."); // เปิดไฟล์ชื่อ data.txt เพื่อเขียนข้อมูล // FILE_WRITE คือโหมดการเขียน (จะสร้างไฟล์ใหม่หากยังไม่มี) File dataFile = SD.open("data.txt", FILE_WRITE); // ตรวจสอบว่าเปิดไฟล์ได้หรือไม่ if (dataFile) { // เขียนข้อความลงในไฟล์ dataFile.println("Hello, this is a test from Arduino!"); // ปิดไฟล์หลังเขียนเสร็จ dataFile.close(); Serial.println("Data saved successfully."); } else { // หากเปิดไฟล์ไม่ได้ Serial.println("Error opening data.txt"); } } void loop() { // ส่วนนี้จะทำงานวนไปเรื่อยๆ // สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อบันทึกค่าจากเซนเซอร์ทุกๆ 5 วินาที เป็นต้น } 📌 การประยุกต์ใช้งาน Data Logger: โปรเจกต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือการเก็บข้อมูลจากเซนเซอร์ต่างๆ (เช่น อุณหภูมิ, ความชื้น, GPS) ลงในการ์ดพร้อมประทับเวลา บันทึกเหตุการณ์ (Event Logging): ใช้บันทึกการทำงานของระบบ เช่น เวลาที่ประตูเปิด-ปิด, เวลาที่มีการเคลื่อนไหว, หรือ Error ที่เกิดขึ้น เก็บไฟล์ขนาดใหญ่: ใช้เก็บไฟล์ภาพจากกล้อง (เช่น ESP32-CAM), ไฟล์เสียง (WAV, MP3) สำหรับโปรเจกต์เครื่องเล่นเพลง, หรือไฟล์ตั้งค่าต่างๆ เก็บข้อมูลในรูปแบบมาตรฐาน: บันทึกข้อมูลเป็นไฟล์ CSV หรือ JSON เพื่อนำไปวิเคราะห์ต่อในคอมพิวเตอร์ได้ง่าย ⭐ ข้อดีของโมดูล ง่ายต่อการใช้งานกับ Arduino: มีไลบรารีมาตรฐาน (SD.h) รองรับ ทำให้เขียนโค้ดได้ไม่ซับซ้อน ใช้พลังงานต่ำ: เหมาะสำหรับโปรเจกต์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ บันทึกข้อมูลได้มหาศาล: เมื่อเทียบกับหน่วยความจำภายในของ Arduino (EEPROM) ที่มีจำกัด เข้าถึงข้อมูลง่าย: สามารถถอด Micro SD Card ไปเสียบกับคอมพิวเตอร์เพื่ออ่านหรือจัดการไฟล์ได้โดยตรง  

    25.00 ฿ 15.00 ฿

  • ขาย -25% OLED i2c for Arduino

    Global Pi Shop OLED i2c for Arduino

    OLED I2C คืออะไร? วิธีใช้งานกับ Arduino OLED (Organic Light-Emitting Diode) คือเทคโนโลยีจอแสดงผลที่แต่ละพิกเซลสามารถเปล่งแสงได้ด้วยตัวเอง โดยใช้หลอด LED ขนาดเล็กจำนวนมากในการสร้างภาพ ทำให้ไม่ต้องอาศัยไฟส่องสว่างจากด้านหลัง (Backlight) เหมือนจอ LCD ทั่วไป ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพที่คมชัด มี Contrast สูง และประหยัดพลังงานกว่า สำหรับงาน DIY กับ Arduino จอ OLED มักจะมาในรูปแบบโมดูลขนาดเล็ก (เช่น 0.96 นิ้ว หรือ 1.3 นิ้ว) และนิยมใช้การสื่อสารแบบ I2C (Inter-Integrated Circuit) ซึ่งใช้สายสัญญาณเพียง 2 เส้น (SDA และ SCL) ทำให้การต่อวงจรนั้นง่ายและประหยัดขาของไมโครคอนโทรลเลอร์อย่างมาก สเปคของ OLED I2C Module (0.96 นิ้ว) ขนาดจอ 0.96 นิ้ว (หรือ 1.3 นิ้ว) ความละเอียด 128x64 พิกเซล (หรือ 128x32) สีที่แสดง โมโนโครม (ส่วนใหญ่เป็นสีขาว, ฟ้า, หรือเหลือง) แรงดันไฟเลี้ยง 3.3V – 5V (ใช้กับ Arduino ได้โดยตรง) โปรโตคอลสื่อสาร I2C (ขา SDA / SCL) ชิปควบคุมจอ SSD1306 (เป็นรุ่นที่นิยมที่สุด) จำนวนขา 4 ขา: VCC, GND, SDA, SCL กระแสที่ใช้ น้อยมาก (ประมาณ 20mA) การใช้งานกับ Arduino การเริ่มต้นใช้งานจอ OLED กับ Arduino มี 3 ขั้นตอนหลักๆ คือ ติดตั้งไลบรารี, ต่อสาย, และอัปโหลดโค้ด ✅ 1. การติดตั้งไลบรารี (Library Installation) ก่อนจะเขียนโค้ดได้ เราต้องติดตั้งไลบรารีที่จำเป็นก่อนผ่านโปรแกรม Arduino IDE: ไปที่เมนู Tools > Manage Libraries... ในช่องค้นหา พิมพ์ "Adafruit SSD1306" แล้วกด Install โปรแกรมจะถามให้ติดตั้งไลบรารีที่เกี่ยวข้อง (Dependencies) คือ "Adafruit GFX Library" ให้กด Install all ✅ 2. การต่อสาย (กับ Arduino Uno/Nano) ขาบนจอ OLED ต่อกับขาบน Arduino VCC 5V GND GND SDA A4 SCL A5 (หมายเหตุ: หากใช้บอร์ดรุ่นอื่น เช่น ESP8266/ESP32 ตำแหน่งของขา SDA/SCL อาจแตกต่างออกไป กรุณาตรวจสอบ Pinout ของบอร์ดนั้นๆ) ✅ 3. ตัวอย่างโค้ดแสดงข้อความ โค้ดนี้จะแสดงคำว่า "Hello!" บนจอ OLED: #include <Wire.h> #include <Adafruit_GFX.h> #include <Adafruit_SSD1306.h> // กำหนดขนาดจอ #define SCREEN_WIDTH 128 #define SCREEN_HEIGHT 64 // สร้าง object ของจอ โดยระบุขนาดและขา I2C // -1 หมายถึงใช้ขา Reset ของ Hardware Adafruit_SSD1306 display(SCREEN_WIDTH, SCREEN_HEIGHT, &Wire, -1); void setup() { Serial.begin(9600); // เริ่มต้นการทำงานของจอ ที่ I2C address 0x3C if (!display.begin(SSD1306_SWITCHCAPVCC, 0x3C)) { Serial.println(F("SSD1306 allocation failed")); for (;;); // วนลูปไม่รู้จบหากหาจอไม่เจอ } // ล้างค่าในหน้าจอ display.clearDisplay(); // ตั้งค่าการแสดงผล display.setTextSize(2); // ขนาดตัวอักษร display.setTextColor(SSD1306_WHITE); // สีตัวอักษร display.setCursor(0, 10); // ตำแหน่งเริ่มต้น (x, y) // พิมพ์ข้อความลงใน buffer display.println("Hello!"); // แสดงผลจาก buffer ออกมาที่หน้าจอจริง display.display(); } void loop() { // ไม่ต้องทำอะไรใน loop เพราะข้อความจะค้างอยู่บนจอ } หมายเหตุ: I2C Address ของจอ OLED ส่วนใหญ่คือ 0x3C แต่บางรุ่นอาจเป็น 0x3D หากโค้ดไม่ทำงาน ให้ลองเปลี่ยนค่าในบรรทัด display.begin(...) ดู การประยุกต์ใช้งาน แสดงค่าที่อ่านได้จากเซนเซอร์ต่างๆ เช่น อุณหภูมิ, ความชื้น, คุณภาพอากาศ (ค่าฝุ่น PM2.5) ใช้เป็นหน้าจอสำหรับสร้างเมนู เพื่อควบคุมการทำงานของโปรเจกต์ แสดงสถานะการทำงานของระบบ เช่น สถานะการเชื่อมต่อ Wi-Fi, IP Address, หรือข้อความแจ้งเตือน สร้างนาฬิกาดิจิทัล, ตัวนับเวลา, หรือสกอร์บอร์ดขนาดเล็ก ข้อดีของ OLED I2C ภาพคมชัดมาก: เนื่องจากแต่ละพิกเซลเปล่งแสงเอง ทำให้มี Contrast สูง ตัวหนังสือคมชัดแม้มองในที่มืด ประหยัดพลังงาน: เพราะไม่ต้องใช้ไฟ Backlight เหมือนจอ LCD พิกเซลสีดำคือการ "ไม่เปล่งแสง" จึงกินไฟน้อยมาก ใช้สายน้อย: การสื่อสารแบบ I2C ใช้เพียง 2 เส้น (SDA, SCL) ทำให้เหลือขา GPIO ของ Arduino ไปใช้งานกับอุปกรณ์อื่นได้อีกเยอะ

    80.00 ฿ 60.00 ฿

  • ขาย -23% บอร์ด ESP32 WI-fI แบบ USB Type C

    Global Pi Shop บอร์ด ESP32 WI-fI แบบ USB Type C

    ESP32 คืออะไร? บอร์ด IoT ทรงพลังพร้อม Wi-Fi + Bluetooth ในตัว ESP32 คือบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ประสิทธิภาพสูงจากบริษัท Espressif Systems ซึ่งเป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดมาจาก ESP8266 ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยมีความสามารถที่เหนือกว่าในหลายๆ ด้าน ทำให้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับโปรเจกต์ที่ซับซ้อนและต้องการประสิทธิภาพสูง มีทั้ง Wi-Fi และ Bluetooth (BLE) ในตัวชิปเดียว มี CPU แบบ Dual-Core ทำให้ประมวลผลได้รวดเร็วและรองรับงานหลายอย่างพร้อมกัน (Multi-threading) มีหน่วยความจำและจำนวนขา GPIO มากกว่า ESP8266 สามารถเขียนโปรแกรมได้หลายรูปแบบ ทั้งผ่าน Arduino IDE, MicroPython, หรือ ESP-IDF ในปัจจุบัน บอร์ด ESP32 รุ่นใหม่ๆ ได้เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB Type-C ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการเชื่อมต่อ ทนทานกว่า และใช้สายร่วมกับอุปกรณ์สมัยใหม่ได้ทันที สเปคของ ESP32 (ทั่วไป) ชิปหลัก ESP32 (มีหลายรุ่น เช่น ESP32-WROOM-32, S2, C3, S3) ซีพียู Dual-core Xtensa LX6 @ 240MHz Wi-Fi 802.11 b/g/n (2.4GHz) Bluetooth Bluetooth 4.2 + BLE (บางรุ่นรองรับ BT 5.0) หน่วยความจำ Flash 4MB หรือมากกว่า SRAM ประมาณ 520KB แรงดันใช้งาน 3.3V (แต่รับไฟผ่าน USB 5V ได้ มีเรกูเลเตอร์ในตัว) GPIO สูงสุด ~30 ขา (ขึ้นอยู่กับรุ่นของบอร์ด) Analog Input (ADC) สูงสุด 18 ช่อง (ความละเอียด 12-bit) Analog Output (DAC) 2 ช่อง (ความละเอียด 8-bit) การสื่อสาร UART, I2C, SPI, PWM, CAN, IR และอื่นๆ พอร์ต USB USB Type-C สำหรับอัปโหลดโปรแกรมและจ่ายไฟ รองรับแบตเตอรี่ บางรุ่นมีวงจรชาร์จแบตเตอรี่ Li-ion ในตัว การใช้งาน ESP32 ✅ เหมาะกับงานประเภทไหน? ด้วยความสามารถที่ครบครัน ESP32 จึงเหมาะอย่างยิ่งกับงานที่หลากหลาย โดยเฉพาะ: Internet of Things (IoT): เช่น การควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าผ่าน Wi-Fi หรือการส่งข้อมูลเซนเซอร์ขึ้น Cloud Smart Home: เช่น ระบบเปิด-ปิดไฟ, ระบบวัดอุณหภูมิและความชื้น, การควบคุมผ่านแอปพลิเคชันมือถือ การสื่อสารผ่าน Bluetooth: เช่น การรับส่งข้อมูลกับสมาร์ทโฟน, อุปกรณ์สวมใส่ (Wearables), หรือ Bluetooth Beacon โปรโตคอลเครือข่ายขั้นสูง: รองรับ ESP-NOW, MQTT, HTTP, WebSocket ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การเชื่อมต่อกับบริการ Cloud: สามารถทำงานร่วมกับ Firebase, LINE Notify, Blynk, Telegram, AWS IoT, และอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย ✅ ตัวอย่างการใช้งานยอดนิยม วัดอุณหภูมิ-ความชื้นด้วย DHT11/DHT22 แล้วส่งข้อมูลขึ้นเว็บหรือ LINE ควบคุมหลอดไฟหรือรีเลย์ผ่าน Web Server หรือแอปพลิเคชัน Blynk สร้างจอแสดงผลไร้สายโดยส่งข้อมูลไปยังจอ OLED/LCD ทำหน้าที่เป็น Wi-Fi Hotspot หรือ Web Server ขนาดเล็ก โปรเจกต์ด้าน AI/Machine Learning ขนาดเล็ก (บางรุ่นรองรับกล้องและ TensorFlow Lite) ตัวอย่างโค้ด: สร้าง Web Server บน ESP32 โค้ดนี้จะทำให้ ESP32 ของคุณเชื่อมต่อ Wi-Fi และสร้างหน้าเว็บที่แสดงข้อความ "สวัสดีจาก ESP32!" เมื่อเข้าถึงผ่านเบราว์เซอร์ #include <WiFi.h> // --- กรุณาแก้ไขชื่อและรหัสผ่าน Wi-Fi ของคุณ --- const char* ssid = "YOUR_WIFI_NAME"; const char* password = "YOUR_WIFI_PASSWORD"; // ------------------------------------------ WiFiServer server(80); // สร้าง Server ที่ Port 80 void setup() { Serial.begin(115200); // เริ่มต้นการเชื่อมต่อ Wi-Fi WiFi.begin(ssid, password); while (WiFi.status() != WL_CONNECTED) { delay(500); Serial.print("."); } Serial.println("\nWiFi connected!"); // แสดง IP Address ที่ได้รับ Serial.print("IP Address: "); Serial.println(WiFi.localIP()); // เริ่มต้น Web Server server.begin(); } void loop() { WiFiClient client = server.available(); if (client) { // ส่งข้อมูล HTML กลับไปให้ Client client.println("HTTP/1.1 200 OK"); client.println("Content-Type: text/html; charset=utf-8"); client.println("Connection: close"); client.println(); client.println("<!DOCTYPE HTML>"); client.println("<html>"); client.println("<head><meta charset='utf-8'></head>"); client.println("<body><h1>สวัสดีจาก ESP32!</h1></body>"); client.println("</html>"); delay(1); client.stop(); } } 📌 ข้อดีของรุ่นที่เป็น USB Type-C เสียบง่าย: ไม่ต้องกังวลเรื่องการเสียบกลับด้าน ลดความเสียหายของพอร์ต รองรับกระแสไฟได้ดี: เหมาะสำหรับบอร์ดที่ต้องการพลังงานสูง สะดวกสบาย: สามารถใช้สายชาร์จร่วมกับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ ได้เลย

    200.00 ฿ 155.00 ฿

  • ขาย -27% MC-38 Magnetic Contact Sensor for Arduino, includes wire and a diode, perfect for door and window projects.

    Global Pi Shop เซ็นเซอร์ MC-38 Magnetic Contact สำหรับ Arduino Pi

    MC-38 คืออะไร? วิธีใช้สวิตช์แม่เหล็กสำหรับประตู/หน้าต่างกับ Arduino MC-38 คือ สวิตช์แม่เหล็ก (Magnetic Contact Sensor) หรือบางครั้งเรียกว่า Reed Switch Sensor เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจจับการเปิด-ปิดของวัตถุ เช่น ประตู หรือหน้าต่าง ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นแม่เหล็ก และส่วนที่เป็นสวิตช์ ซึ่งจะทำปฏิกิริยาต่อกันเมื่ออยู่ในระยะใกล้ ด้วยความง่ายในการติดตั้งและใช้งาน จึงนิยมนำไปใช้ในระบบกันขโมย, ระบบนับจำนวนการเปิด-ปิด, หรือใช้เป็นเซนเซอร์ตรวจจับตำแหน่งในโปรเจกต์ต่างๆ หลักการทำงาน ภายในตัวสวิตช์จะมีแผ่นโลหะบางๆ สองแผ่นที่ไม่สัมผัสกัน (วงจรเปิด) แต่เมื่อนำแม่เหล็กเข้ามาใกล้ในระยะที่กำหนด สนามแม่เหล็กจะเหนี่ยวนำให้แผ่นโลหะทั้งสองดูดติดกัน ทำให้วงจรเชื่อมต่อกัน (วงจรปิด) และเมื่อนำแม่เหล็กออกห่าง แผ่นโลหะก็จะแยกจากกันอีกครั้ง สเปคของ MC-38 แรงดันไฟฟ้าที่รองรับ 3V – 24V DC (ใช้งานกับ 5V ของ Arduino ได้) กระแสที่รองรับ สูงสุดประมาณ 100 mA ระยะการทำงาน ประมาณ 15 – 25 มม. (ขึ้นอยู่กับแรงแม่เหล็ก) ชนิดสวิตช์ Normally Open (NO) → สถานะปกติวงจรจะ "เปิด" (ไม่เชื่อมต่อ) และจะ "ปิด" (เชื่อมต่อ) เมื่อแม่เหล็กอยู่ใกล้ วัสดุ พลาสติก ABS, มีเทปกาวและรูสำหรับยึดน็อต สายไฟ 2 เส้น (ไม่มีขั้ว) การใช้งานกับ Arduino ✅ การต่อสาย การต่อวงจรนั้นง่ายมาก โดยใช้ประโยชน์จาก Pull-up Resistor ภายในของ Arduino: สายจาก MC-38 ต่อกับขาบน Arduino สายเส้นที่ 1 ขา Digital ใดก็ได้ (เช่น D2) สายเส้นที่ 2 GND การใช้ INPUT_PULLUP การตั้งค่า pinMode(sensorPin, INPUT_PULLUP); ในโค้ดเป็นการสั่งให้ Arduino เปิดใช้งานตัวต้านทานภายในที่ต่อกับไฟ 5V ทำให้ในสถานะปกติ (ประตูเปิด) ขา D2 จะอ่านค่าได้เป็น HIGH และเมื่อประตูถูกปิด (แม่เหล็กอยู่ใกล้) สวิตช์จะทำงานและดึงไฟลงกราวด์ ทำให้ขา D2 อ่านค่าได้เป็น LOW ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้เราไม่ต้องต่อตัวต้านทานภายนอกเพิ่ม ✅ ตัวอย่างโค้ด Arduino โค้ดนี้จะอ่านสถานะของสวิตช์แม่เหล็กและแสดงผลทาง Serial Monitor ว่าประตูเปิดหรือปิดอยู่ // กำหนดขาที่ต่อกับ MC-38 const int sensorPin = 2; void setup() { // ตั้งค่าขาเป็น Input และเปิดใช้ Pull-up Resistor ภายใน pinMode(sensorPin, INPUT_PULLUP); Serial.begin(9600); Serial.println("Magnetic Door Sensor Test"); } void loop() { // อ่านสถานะจากเซนเซอร์ int sensorState = digitalRead(sensorPin); // ตรวจสอบสถานะ if (sensorState == LOW) { // เมื่อแม่เหล็กอยู่ใกล้ (ประตู/หน้าต่างปิด) Serial.println("สถานะ: ประตูปิด"); } else { // เมื่อแม่เหล็กอยู่ห่าง (ประตู/หน้าต่างเปิด) Serial.println("สถานะ: ประตูเปิด!"); } delay(500); // หน่วงเวลาเล็กน้อย } 💡 การประยุกต์ใช้งาน โปรเจกต์ การประยุกต์ใช้ MC-38 ระบบกันขโมยบ้าน ติดตั้งที่ประตูและหน้าต่าง เพื่อส่งเสียงเตือนหรือแจ้งเตือนผ่าน Line เมื่อมีการเปิด ระบบนับคนเข้า-ออก ติดตั้งที่ประตูเพื่อนับจำนวนครั้งของการเปิด-ปิด หุ่นยนต์หรือแขนกล ใช้เป็น Limit Switch เพื่อตรวจจับตำแหน่งสุดแขนหรือกลไกที่เคลื่อนที่ ระบบความปลอดภัยในตู้ ตรวจสอบสถานะว่าตู้เก็บของสำคัญถูกเปิดทิ้งไว้หรือไม่ ระบบเตือนเปิดประตูตู้เย็น ส่งเสียง Buzzer เตือนหากประตูตู้เย็นถูกเปิดค้างไว้นานเกินไป ข้อดีและข้อควรระวัง ✅ ข้อดี ราคาถูกมากและติดตั้งง่ายด้วยเทปกาวหรือน็อต ไม่ต้องการพลังงานในการทำงาน (เป็นแค่สวิตช์) มีความทนทานสูงและอายุการใช้งานยาวนาน ไม่ต้องเขียนโปรแกรมซับซ้อน ใช้เพียง `digitalRead` ทำงานโดยไม่ต้องสัมผัสโดยตรง (Contactless) ⚠️ ข้อควรระวัง ตัว Reed Switch ที่อยู่ภายในค่อนข้างบอบบาง ควรระวังการกระแทกแรงๆ ห้ามใช้กับแรงดันหรือกระแสไฟฟ้าที่เกินสเปคกำหนด เพราะจะทำให้หน้าสัมผัสของสวิตช์ละลายติดกันและเสียหายถาวรได้

    30.00 ฿ 22.00 ฿

  • ขาย -52% PS2 XY Joystick Module for Arduino, showing joystick and free resistor accessory on a colorful background.

    Global Pi Shop PS2 XY Joystick Module สำหรับ Arduino Pi ESP32

    PS2 XY Joystick Module คืออะไร? วิธีใช้งานกับ Arduino A302 PS2 XY Joystick Module คือ โมดูลจอยสติ๊กแบบอนาล็อกที่ทำงานคล้ายกับจอยเกม PlayStation 2 (PS2) ประกอบด้วยแกนควบคุม 2 แกน (แกน X และแกน Y) สำหรับตรวจจับการเคลื่อนที่ในแนว ซ้าย-ขวา และ ขึ้น-ลง นอกจากนี้ยังมีปุ่มกด (Push Button) ที่สามารถใช้งานได้เมื่อกดแกนจอยสติ๊กลงไปตรงๆ ด้วยความสามารถในการให้ค่าได้ทั้งแบบอนาล็อก (ตำแหน่ง) และดิจิทัล (ปุ่มกด) ทำให้มันเป็นอุปกรณ์อินพุตที่ยอดเยี่ยมสำหรับควบคุมหุ่นยนต์, แขนกล, กล้อง, รถบังคับ, หรือสร้างเกม DIY ต่างๆ สเปคของ Joystick Module แรงดันไฟฟ้าใช้งาน 3.3V – 5V อินพุตแกน X และ Y ให้สัญญาณเอาต์พุตแบบ Analog (0 - 1023 บน Arduino) ปุ่มกดกลาง (SW) ให้สัญญาณเอาต์พุตแบบ Digital (ส่งค่า LOW เมื่อถูกกด) ขาใช้งาน 5 ขา (GND, 5V, VRx, VRy, SW) ขนาดโดยรวม ประมาณ 34 × 26 มม. การใช้งานกับ Arduino ✅ การต่อสาย ขาบนโมดูล ต่อกับขาบน Arduino UNO หน้าที่ GND GND กราวด์ VCC (5V) 5V ไฟเลี้ยง VRx A0 สัญญาณอนาล็อกแกน X VRy A1 สัญญาณอนาล็อกแกน Y SW D2 สัญญาณดิจิทัลของปุ่มกด ✅ ตัวอย่างโค้ด Arduino โค้ดนี้จะอ่านค่าจากแกน X, Y และปุ่มกด แล้วแสดงผลทาง Serial Monitor // กำหนดขาที่เชื่อมต่อ const int VRxPin = A0; // แกน X const int VRyPin = A1; // แกน Y const int SWPin = 2; // ปุ่มกด (Switch) void setup() { Serial.begin(9600); // กำหนดให้ขา SW เป็น INPUT และเปิดใช้งาน Pull-up Resistor ภายใน // เพื่อให้สถานะปกติเป็น HIGH และเป็น LOW เมื่อถูกกด pinMode(SWPin, INPUT_PULLUP); } void loop() { // อ่านค่าอนาลอกจากแกน X และ Y int xPosition = analogRead(VRxPin); int yPosition = analogRead(VRyPin); // อ่านค่าดิจิทัลจากปุ่มกด int buttonState = digitalRead(SWPin); // แสดงผลค่าที่อ่านได้ Serial.print("X: "); Serial.print(xPosition); Serial.print(" | Y: "); Serial.print(yPosition); Serial.print(" | Button: "); Serial.println(buttonState == LOW ? "Pressed" : "Not Pressed"); delay(200); // หน่วงเวลาเล็กน้อย } หลักการอ่านค่าจากโค้ด แกน X (VRx) และ Y (VRy): ให้ค่าอนาล็อกในช่วง 0–1023 โดยตำแหน่งกลางจะอยู่ประมาณ 512 เมื่อโยกไปสุดด้านหนึ่ง ค่าจะเข้าใกล้ 0 และอีกด้านจะเข้าใกล้ 1023 ปุ่มกด (SW): เมื่อปุ่มถูกกด จะให้ค่าเป็น LOW (0) และเมื่อปล่อยจะเป็น HIGH (1) (เนื่องจากเราใช้ `INPUT_PULLUP`) 💡 การประยุกต์ใช้งาน โปรเจกต์ การใช้งาน Joystick รถบังคับไร้สาย ใช้ค่า X/Y ควบคุมทิศทางและความเร็วของมอเตอร์ล้อซ้าย-ขวา แขนกล/หุ่นยนต์ ควบคุมการเคลื่อนไหวของ Servo Motor หลายๆ ตัวได้อย่างละเอียดและเป็นธรรมชาติ กล้องแพน-ทิลท์ (Pan-Tilt) ใช้โยกจอยสติ๊กเพื่อสั่งให้กล้องหันซ้าย-ขวา และก้ม-เงย เกม DIY สร้างเกมง่ายๆ บนจอ OLED หรือ LED Matrix โดยใช้จอยเป็นตัวควบคุม เมนูควบคุม ใช้เลื่อนเคอร์เซอร์ขึ้น-ลง-ซ้าย-ขวา และใช้ปุ่มกดเพื่อ "ยืนยัน" การเลือกเมนูบนจอ LCD ข้อดีและข้อควรระวัง ✅ ข้อดี ใช้งานง่ายมาก เพียงต่อสายไม่กี่เส้นและอ่านค่าได้ทันที ให้สัญญาณครบถ้วน ได้ทั้งค่าตำแหน่งแบบอนาล็อก 2 แกน และค่าปุ่มกดแบบดิจิทัล ราคาถูกและทนทาน เหมาะสำหรับโปรเจกต์ต้นแบบและงานอดิเรก เข้ากันได้กับหลายบอร์ด เช่น Arduino, ESP32, Raspberry Pi ⚠️ ข้อควรระวัง ควรใช้งานด้วยความนุ่มนวล ไม่กระชากหรือกดแรงเกินไป เพราะกลไกภายในอาจเสียหายได้ หากใช้กับบอร์ดที่ทำงานบน Logic 3.3V (เช่น ESP32, Raspberry Pi) ควรจ่ายไฟ VCC ให้โมดูลจากขา 3.3V ของบอร์ดนั้นๆ เพื่อความเข้ากันได้ของสัญญาณ

    25.00 ฿ 12.00 ฿

  • ขาย -38% HC-SR04P ultrasonic sensor for Arduino with free wires included, suitable for robotics and distance measurement projects.

    Global Pi Shop เซ็นเซอร์ HC-SR04P Ultrasonic สำหรับ Arduino Robotics

    HC-SR04P คืออะไร? วิธีวัดระยะทางด้วย Ultrasonic Sensor และ Arduino HC-SR04P คือ เซนเซอร์อัลตร้าโซนิค (Ultrasonic Sensor) สำหรับวัดระยะห่างระหว่างตัวเซนเซอร์กับวัตถุ โดยอาศัยหลักการส่งคลื่นเสียงความถี่สูง (40 kHz) ออกไป และจับเวลาที่คลื่นเสียงนั้นเดินทางไปกระทบวัตถุแล้วสะท้อนกลับมา จากนั้นจึงนำค่าเวลามาคำนวณเป็นระยะทาง เซนเซอร์รุ่นนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในโปรเจกต์หุ่นยนต์หลบหลีกสิ่งกีดขวาง, ระบบตรวจจับวัตถุ, การวัดระดับน้ำในถัง และอื่นๆ อีกมากมาย HC-SR04P vs HC-SR04 (รุ่นเก่า): จุดเด่นสำคัญของรุ่น P คือการรองรับแรงดันไฟฟ้าได้ทั้ง 3.3V และ 5V ทำให้สามารถใช้งานได้กับบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ที่หลากหลายมากขึ้น เช่น ESP32, Raspberry Pi โดยไม่ต้องใช้วงจรแปลงระดับแรงดัน (Logic Level Shifter) เพิ่มเติม สเปคของ HC-SR04P แรงดันไฟฟ้าที่รองรับ 3.0V – 5.5V DC กระแสขณะทำงาน ประมาณ 8 mA ช่วงวัดระยะ 2 ซม. – 400 ซม. (4 เมตร) ความแม่นยำ ประมาณ ±3 มม. มุมการวัด ประมาณ 15° อินเทอร์เฟซ ดิจิทัล (ใช้ขา Trig สำหรับส่ง และ Echo สำหรับรับ) ขาเชื่อมต่อ 4 ขา (VCC, Trig, Echo, GND) การใช้งานกับ Arduino ✅ การต่อสาย ขาบน HC-SR04P ต่อกับขาบน Arduino UNO VCC 5V (หรือ 3.3V) GND GND Trig (Trigger) ขา Digital ใดก็ได้ (เช่น D9) Echo ขา Digital ใดก็ได้ (เช่น D10) ✅ ตัวอย่างโค้ด Arduino โค้ดนี้จะสั่งให้เซนเซอร์วัดระยะทางทุกๆ ครึ่งวินาที แล้วแสดงผลเป็นหน่วยเซนติเมตรทาง Serial Monitor // กำหนดขา Trig และ Echo const int trigPin = 9; const int echoPin = 10; void setup() { Serial.begin(9600); // เริ่มการสื่อสารแบบ Serial pinMode(trigPin, OUTPUT); pinMode(echoPin, INPUT); } void loop() { long duration; float distance; // สร้างพัลส์สั้นๆ ที่ขา Trig เพื่อสั่งให้เซนเซอร์ส่งคลื่นเสียง digitalWrite(trigPin, LOW); delayMicroseconds(2); digitalWrite(trigPin, HIGH); delayMicroseconds(10); digitalWrite(trigPin, LOW); // อ่านค่าเวลาที่คลื่นเสียงใช้เดินทางไป-กลับ (หน่วยเป็น microsecond) duration = pulseIn(echoPin, HIGH); // คำนวณเป็นระยะทาง (หน่วยเป็นเซนติเมตร) // สูตร: ระยะทาง = (ความเร็วเสียง * เวลา) / 2 // ความเร็วเสียง = 340 m/s หรือ 0.034 cm/μs distance = duration * 0.034 / 2; // แสดงผล Serial.print("Distance: "); Serial.print(distance); Serial.println(" cm"); delay(500); // หน่วงเวลา 0.5 วินาที ก่อนวัดครั้งต่อไป } 💡 ไอเดียการประยุกต์ใช้งาน โปรเจกต์ การใช้งาน HC-SR04P หุ่นยนต์หลบหลีกสิ่งกีดขวาง ติดตั้งไว้ด้านหน้าหุ่นยนต์เพื่อวัดระยะจากกำแพงหรือสิ่งของ แล้วสั่งให้เลี้ยวหลบ เซนเซอร์วัดระดับน้ำ ติดตั้งไว้เหนือผิวน้ำในถัง เพื่อวัดระยะห่างและคำนวณระดับน้ำที่เหลืออยู่ ระบบช่วยจอดรถ ติดตั้งไว้ท้ายรถเพื่อวัดระยะจากวัตถุด้านหลัง พร้อมส่งเสียงเตือนเมื่อเข้าใกล้เกินไป ระบบเปิดประตู/ก๊อกน้ำอัตโนมัติ ใช้ตรวจจับมือหรือบุคคลที่เข้ามาในระยะเพื่อสั่งงานอุปกรณ์ ไม้บรรทัดดิจิทัล สร้างเครื่องมือวัดระยะทางแบบพกพา แสดงผลบนจอ OLED หรือ LCD ข้อดีและข้อควรระวัง ✅ ข้อดีของ HC-SR04P รองรับทั้ง 3.3V และ 5V ทำให้ใช้งานได้กับบอร์ดหลากหลายรุ่นโดยตรง ใช้งานง่าย มีโค้ดและตัวอย่างมากมายให้ศึกษา ราคาประหยัด เป็นเซนเซอร์วัดระยะทางที่คุ้มค่าที่สุดตัวหนึ่ง วัดได้ไกลและแม่นยำ เพียงพอสำหรับโปรเจกต์ส่วนใหญ่ (สูงสุด 4 เมตร) ⚠️ ข้อควรระวัง ไม่กันน้ำ ตัวเซนเซอร์ไม่ควรโดนน้ำหรือความชื้นโดยตรง พื้นผิวของวัตถุมีผลต่อการวัด วัตถุที่นุ่มหรือดูดซับเสียง (เช่น ผ้า, ฟองน้ำ) อาจทำให้วัดค่าได้ไม่แม่นยำ การรบกวนของคลื่น หากใช้งานหลายตัวพร้อมกันในบริเวณใกล้เคียง อาจเกิดการรบกวนของคลื่นเสียงได้

    40.00 ฿ 25.00 ฿

  • ขาย -57% Soil moisture sensor module for Arduino with connected probes and wires, ideal for automation projects.

    Global Pi Shop เซ็นเซอร์วัดความชื้นดิน Soil Moisture Module Arduino

    Soil Moisture Sensor คืออะไร? วิธีใช้งานกับ Arduino เซ็นเซอร์วัดความชื้นในดิน (Soil Moisture Sensor) เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่นิยมใช้ในโปรเจกต์ Smart Farm, ระบบรดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ, และงานอดิเรกด้านพืชสวน เพราะสามารถทำงานร่วมกับ Arduino ได้ง่าย, ราคาถูก, และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเรียนรู้ระบบควบคุมอัตโนมัติ หลักการทำงาน เซนเซอร์ประเภทนี้ทำงานโดยอาศัยหลักการวัด **ค่าความต้านทานไฟฟ้าของดิน** ซึ่งแปรผันตามปริมาณน้ำ: ดินแห้ง: มีความต้านทานสูง (นำไฟฟ้าได้ไม่ดี) ดินชื้น: มีความต้านทานต่ำ (นำไฟฟ้าได้ดีขึ้น) โมดูลจะแปลงค่าความต้านทานนี้เป็นระดับแรงดันไฟฟ้า แล้วส่งออกมาเป็นสัญญาณ 2 รูปแบบ คือ Analog (ค่าต่อเนื่อง) และ Digital (มี/ไม่มี) สเปคของ Soil Moisture Sensor แรงดันไฟเลี้ยง 3.3V – 5V กระแสที่ใช้ ประมาณ 10-20 mA สัญญาณเอาต์พุต Analog (A0) และ Digital (D0) โครงสร้าง Probe 2 ขาสำหรับเสียบลงดิน และบอร์ดแปลงสัญญาณ การปรับค่า มี Potentiometer (VR) สำหรับปรับจุดตัด (Threshold) ของสัญญาณ Digital การใช้งานกับ Arduino 1. การต่อสาย ขาบนโมดูลเซนเซอร์ ต่อกับขาบน Arduino VCC 5V GND GND A0 (Analog Output) A0 (หรือขา Analog อื่นๆ) D0 (Digital Output) ขา Digital ใดก็ได้ (เช่น D2) 2. การอ่านค่าแบบ Analog (แนะนำวิธีนี้) การอ่านค่าแบบ Analog ให้ข้อมูลที่ละเอียดกว่า ทำให้เราสามารถกำหนดระดับความชื้นได้หลายระดับ const int sensorPin = A0; // กำหนดขา A0 สำหรับอ่านค่าจากเซนเซอร์ void setup() { Serial.begin(9600); // เริ่มการสื่อสารแบบ Serial } void loop() { int moistureValue = analogRead(sensorPin); // อ่านค่าอนาล็อก (0-1023) Serial.print("Soil Moisture Value: "); Serial.println(moistureValue); delay(1000); // รอ 1 วินาที ก่อนอ่านค่าครั้งต่อไป } การแปลผลค่า Analog: ค่าสูง (เช่น 800-1023): หมายถึงดินมีความต้านทานสูง = ดินแห้ง ค่าต่ำ (เช่น 100-300): หมายถึงดินมีความต้านทานต่ำ = ดินชื้น/เปียก เราสามารถนำค่านี้ไปใช้ตั้งเงื่อนไขในโปรเจกต์รดน้ำต้นไม้อัตโนมัติได้ เช่น `if (moistureValue > 700) { // สั่งรดน้ำ }` 3. การอ่านค่าแบบ Digital การอ่านค่าแบบ Digital จะให้ผลลัพธ์แค่ 2 สถานะ คือ "ชื้น" หรือ "แห้ง" ซึ่งเราสามารถปรับจุดตัดได้ที่ตัว Potentiometer บนโมดูล const int sensorDigitalPin = 2; // กำหนดขา D2 สำหรับอ่านค่า Digital void setup() { pinMode(sensorDigitalPin, INPUT); // กำหนดขาเป็น Input Serial.begin(9600); } void loop() { int digitalValue = digitalRead(sensorDigitalPin); // โดยทั่วไป โมดูลจะส่ง LOW เมื่อดินชื้น และ HIGH เมื่อดินแห้ง if (digitalValue == LOW) { Serial.println("สถานะ: ดินชื้น"); } else { Serial.println("สถานะ: ดินแห้ง"); } delay(1000); } เคล็ดลับเพิ่มเติม (Pro Tips) การกัดกร่อน: เซนเซอร์แบบนี้ไม่ควรเสียบแช่ในดินและจ่ายไฟตลอดเวลา เพราะจะทำให้ผิวของ Probe เกิดการกัดกร่อน (สนิม) ได้เร็ว ควรเขียนโค้ดให้จ่ายไฟเฉพาะตอนที่ต้องการวัดเท่านั้น (โดยใช้ขา Digital อีกขามาควบคุมไฟเลี้ยง) การนำไปใช้งาน: สามารถใช้ค่าที่อ่านได้ไปสั่งงาน โมดูลรีเลย์ (Relay Module) เพื่อควบคุมปั๊มน้ำหรือวาล์วไฟฟ้าสำหรับระบบรดน้ำอัตโนมัติ เซนเซอร์ทางเลือก: หากต้องการความแม่นยำและทนทานที่สูงกว่า แนะนำให้ลองใช้ Capacitive Soil Moisture Sensor ซึ่งวัดความชื้นโดยอาศัยหลักการของค่าประจุไฟฟ้าและไม่มีส่วนของโลหะที่สัมผัสดินโดยตรง ทำให้ทนทานและไม่ขึ้นสนิม

    35.00 ฿ 15.00 ฿

  • ขาย -75% MQ-2 Smoke Gas Sensor For Arduino

    Global Pi Shop MQ-2 Smoke Gas Sensor For Arduino

    MQ-2 คืออะไร? วิธีใช้เซนเซอร์ตรวจจับควันและแก๊สรั่วกับ Arduino MQ-2 คือ ก๊าซเซนเซอร์ (Gas Sensor) ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในโปรเจกต์ Arduino และงานอดิเรกด้านอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากเป็นเซนเซอร์ที่มีความไวสูง สามารถตรวจจับได้ทั้งควันไฟและก๊าซไวไฟหลายชนิด เหมาะสำหรับนำไปสร้างเป็นระบบเตือนภัยแก๊สรั่วหรือระบบตรวจจับควันไฟในบ้าน หลักการทำงานของเซนเซอร์คือ ภายในจะมีขดลวดทำความร้อนและตัวตรวจจับที่ทำจากดีบุกไดออกไซด์ (SnO₂) ซึ่งค่าความต้านทานของมันจะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อสัมผัสกับโมเลกุลของก๊าซในอากาศ ทำให้เราสามารถวัดการเปลี่ยนแปลงนั้นออกมาเป็นสัญญาณไฟฟ้าได้ MQ-2 ตรวจจับก๊าซอะไรได้บ้าง? เซนเซอร์ MQ-2 มีความไวต่อก๊าซไวไฟหลายชนิด โดยเฉพาะ: ก๊าซ LPG (ก๊าซหุงต้ม) ก๊าซ Butane ก๊าซ Propane ก๊าซ Methane (CH₄) ก๊าซ Hydrogen (H₂) ควันไฟ (Smoke) แอลกอฮอล์ (Alcohol) สเปคของ MQ-2 แรงดันไฟเลี้ยง 5V DC กำลังไฟฟ้าที่ใช้ ประมาณ 800mW ประเภทสัญญาณ Analog (AOUT) และ Digital (DOUT) เวลาอุ่นเครื่อง (Warm-up) ประมาณ 20 วินาที ถึง 2 นาที ช่วงการตรวจจับ 300 - 10,000 ppm (ส่วนในล้านส่วน) ขาเชื่อมต่อ 4 ขา: VCC, GND, AOUT, DOUT ข้อควรทราบ: เซนเซอร์ประเภทนี้ต้องใช้เวลาในการ "อุ่นเครื่อง" (Warm-up) เพื่อให้ขดลวดความร้อนภายในมีอุณหภูมิคงที่เสียก่อน ค่าที่อ่านได้ในช่วงแรกจึงอาจยังไม่แม่นยำ ควรปล่อยให้เซนเซอร์ทำงานสักครู่ก่อนนำค่าไปใช้งานจริง การใช้งาน MQ-2 กับ Arduino 1. การต่อสาย ขาบนโมดูล MQ-2 ต่อกับขาบน Arduino VCC 5V GND GND AOUT (Analog Out) A0 (หรือขา Analog อื่นๆ) DOUT (Digital Out) ขา Digital ใดก็ได้ (เช่น D2) 2. ตัวอย่างโค้ดใช้งานแบบ Analog (วัดระดับความเข้มข้น) การอ่านค่าแบบ Analog จะให้ค่า 0-1023 ซึ่งแปรผันตามความเข้มข้นของก๊าซ (ยิ่งค่าสูง แสดงว่ามีความเข้มข้นมาก) const int mq2Pin = A0; // กำหนดขา A0 สำหรับอ่านค่า Analog void setup() { Serial.begin(9600); } void loop() { int gasLevel = analogRead(mq2Pin); // อ่านค่า (0-1023) Serial.print("Gas Level: "); Serial.println(gasLevel); delay(1000); // รอ 1 วินาที ก่อนอ่านค่าครั้งต่อไป } 3. ตัวอย่างโค้ดใช้งานแบบ Digital (แจ้งเตือน) การอ่านค่าแบบ Digital จะให้ค่าแค่ LOW (0) หรือ HIGH (1) เท่านั้น โดยโมดูลจะส่งค่า LOW เมื่อระดับก๊าซเกินจุดที่ตั้งไว้ด้วย Potentiometer บนบอร์ด const int mq2DigitalPin = 2; // กำหนดขา D2 สำหรับอ่านค่า Digital void setup() { pinMode(mq2DigitalPin, INPUT); Serial.begin(9600); } void loop() { int gasDetected = digitalRead(mq2DigitalPin); // โดยทั่วไป โมดูลจะส่ง LOW เมื่อตรวจพบแก๊สเกินค่าที่ตั้งไว้ if (gasDetected == LOW) { Serial.println("ตรวจพบแก๊สหรือควัน!"); } else { Serial.println("สถานะปกติ"); } delay(1000); } ไอเดียการประยุกต์ใช้งาน ระบบเตือนภัยแก๊สรั่วในครัว: เมื่อตรวจพบก๊าซ LPG เกินระดับ ให้ส่งเสียง Buzzer เตือน หรือส่ง LINE Notify เครื่องตรวจจับควันไฟ: ใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบป้องกันอัคคีภัย แจ้งเตือนเมื่อมีควันหนาแน่น เครื่องวัดคุณภาพอากาศ (เบื้องต้น): ใช้ตรวจจับมลพิษในอากาศ (เช่น ควัน, แอลกอฮอล์) เครื่องเป่าแอลกอฮอล์ (DIY): สร้างเครื่องจำลองการวัดระดับแอลกอฮอล์จากลมหายใจ

    100.00 ฿ 25.00 ฿

  • ขาย -38% DHT11 Humidity and Temperature sensor For Arduino Nodemcu ESP32

    Global Pi Shop DHT11 Humidity and Temperature sensor For Arduino Nodemcu ESP32

    DHT11 คืออะไร? วิธีใช้งานเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิและความชื้น DHT11 คือเซนเซอร์ดิจิทัลสำหรับวัด อุณหภูมิ (Temperature) และ ความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity) ในอากาศ เป็นหนึ่งในเซนเซอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับโปรเจกต์ Arduino และงานอดิเรกด้านอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากใช้งานง่าย, ราคาถูก, และให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำในระดับหนึ่ง ภายในตัว DHT11 ประกอบด้วยตัววัดความชื้นแบบ Capacitive และตัววัดอุณหภูมิแบบ Thermistor พร้อมวงจรแปลงสัญญาณ Analog เป็น Digital ทำให้สามารถส่งข้อมูลออกมาทางสายสัญญาณเพียงเส้นเดียวได้ สเปคของ DHT11 ช่วงวัดความชื้น 20–90% RH (ความคลาดเคลื่อน ±5% RH) ช่วงวัดอุณหภูมิ 0–50°C (ความคลาดเคลื่อน ±2°C) แรงดันไฟเลี้ยง 3.3V – 5.5V สัญญาณเอาต์พุต ดิจิทัล (แบบ Single-wire bus) อัตราการอ่านข้อมูล สูงสุด 1 ครั้งต่อวินาที (1Hz) จำนวนขา 3 หรือ 4 ขา (หากเป็นโมดูลจะใช้จริง 3 ขา) การใช้งาน DHT11 กับ Arduino 1. การต่อสาย ขาบน DHT11 ต่อกับขาบน Arduino VCC (หรือ +) 5V GND (หรือ -) GND DATA (หรือ OUT) ขา Digital ใดก็ได้ (เช่น D2) หมายเหตุ: หากใช้เซนเซอร์ DHT11 แบบ 4 ขาที่ไม่มีแผงวงจร (โมดูล) อาจต้องต่อตัวต้านทาน Pull-up ขนาด 4.7KΩ - 10KΩ ระหว่างขา VCC และขา DATA ด้วย แต่ถ้าเป็นแบบโมดูล (3 ขา) ส่วนใหญ่จะมีตัวต้านทานนี้มาให้แล้ว 2. การติดตั้งไลบรารี ก่อนเขียนโค้ด จำเป็นต้องติดตั้งไลบรารีสำหรับ DHT Sensor ก่อน: เปิดโปรแกรม Arduino IDE ไปที่เมนู Tools > Manage Libraries... ในช่องค้นหา พิมพ์ "DHT sensor library" มองหาไลบรารีจาก Adafruit และกดปุ่ม "Install" (โปรแกรมอาจถามให้ติดตั้งไลบรารีอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย ให้กด Install all) 3. ตัวอย่างโค้ด Arduino โค้ดนี้จะอ่านค่าอุณหภูมิและความชื้นจาก DHT11 ทุกๆ 2 วินาที แล้วแสดงผลทาง Serial Monitor #include <DHT.h> // กำหนดขาและประเภทของเซนเซอร์ #define DHTPIN 2 // ขา DATA ของ DHT11 ต่อกับขา D2 ของ Arduino #define DHTTYPE DHT11 // กำหนดประเภทเซนเซอร์เป็น DHT11 // สร้าง object ของ DHT DHT dht(DHTPIN, DHTTYPE); void setup() { Serial.begin(9600); Serial.println("DHT11 test!"); // เริ่มต้นการทำงานของเซนเซอร์ dht.begin(); } void loop() { // รอ 2 วินาทีก่อนที่จะอ่านค่าครั้งต่อไป delay(2000); // อ่านค่าความชื้น float h = dht.readHumidity(); // อ่านค่าอุณหภูมิเป็นเซลเซียส float t = dht.readTemperature(); // อ่านค่าอุณหภูมิเป็นฟาเรนไฮต์ (ถ้าต้องการ) // float f = dht.readTemperature(true); // ตรวจสอบว่าการอ่านค่าสำเร็จหรือไม่ if (isnan(h) || isnan(t)) { Serial.println("Failed to read from DHT sensor!"); return; // ออกจาก loop แล้วเริ่มใหม่ } // แสดงผลค่าที่อ่านได้ Serial.print("ความชื้น: "); Serial.print(h); Serial.print(" %\t"); Serial.print("อุณหภูมิ: "); Serial.print(t); Serial.println(" *C"); }  

    40.00 ฿ 25.00 ฿

  • 3-Axis Digital Compass Breakout Board

    Global Pi Shop 3-Axis Digital Compass Breakout Board

    โมดูลเข็มทิศดิจิทัล 3 แกน (3-Axis Digital Compass) เพิ่มความสามารถในการรับรู้ทิศทางให้กับโปรเจกต์ของคุณด้วย โมดูลเข็มทิศดิจิทัล 3 แกน เซ็นเซอร์นี้ทำหน้าที่วัดสนามแม่เหล็กโลกเพื่อระบุทิศทาง (Heading) ได้อย่างแม่นยำ ด้วยการเชื่อมต่อที่ง่ายดายผ่านโปรโตคอล I2C และขนาดที่เล็กกะทัดรัด ทำให้เหมาะสำหรับนำไปใช้ในโปรเจกต์หุ่นยนต์, โดรน, ระบบนำทาง, หรืออุปกรณ์พกพาต่างๆ คุณสมบัติเด่น (Key Features) การวัด 3 แกน (3-Axis): สามารถวัดค่าสนามแม่เหล็กได้ทั้งแกน X, Y, และ Z ทำให้สามารถคำนวณทิศทางได้อย่างถูกต้องแม้บอร์ดจะเอียง เชื่อมต่อง่ายผ่าน I2C: ใช้สายสัญญาณเพียง 2 เส้น (SDA, SCL) ทำให้ประหยัดขาของไมโครคอนโทรลเลอร์ รองรับแรงดันไฟกว้าง: ใช้งานได้กับบอร์ดที่ใช้แรงดันทั้ง 3.3V และ 5V ความละเอียดสูง: มีความละเอียดในการวัดถึง 5 milli-gauss ประหยัดพลังงาน: ใช้กระแสไฟฟ้าในการทำงานน้อยมาก ข้อมูลจำเพาะ (Specifications) อินเทอร์เฟซ I2C แรงดันไฟเลี้ยง (Supply) 3.3V - 5.0V DC ระดับแรงดันลอจิก (Logic Level) 3.3V DC ความละเอียด 5 milli-gauss การใช้กระแสไฟฟ้า ต่ำ (Low current draw) ขนาด 15 x 13 มม. ข้อควรระวังในการใช้งาน ระดับแรงดันลอจิก 3.3V: แม้ว่าโมดูลจะรับไฟเลี้ยง 5V ได้ แต่ขา SDA และ SCL ทำงานที่ระดับ 3.3V หากนำไปใช้กับบอร์ด 5V เช่น Arduino Uno ควรใช้วงจรแปลงระดับแรงดัน (Logic Level Shifter) เพื่อป้องกันความเสียหาย การรบกวนจากสนามแม่เหล็ก: ควรติดตั้งเซนเซอร์ให้ห่างจากแหล่งกำเนิดสนามแม่เหล็กอื่นๆ เช่น มอเตอร์, สายไฟที่มีกระแสสูง, หรือวัตถุที่เป็นโลหะขนาดใหญ่ เพราะอาจทำให้ค่าที่วัดได้ผิดเพี้ยน การประยุกต์ใช้งาน (Applications) หุ่นยนต์และรถบังคับ: ใช้ในการนำทางและรักษาทิศทางการเคลื่อนที่ โดรน (Drones): เป็นส่วนสำคัญในระบบควบคุมการทรงตัวและทิศทางการบิน ระบบนำทางสำหรับบุคคล: สร้างอุปกรณ์บอกทิศทางแบบพกพา สถานีตรวจวัดสภาพอากาศ: ใช้วัดทิศทางลมร่วมกับเซ็นเซอร์อื่นๆ โปรเจกต์ Augmented Reality (AR): ใช้ในการระบุทิศทางที่ผู้ใช้กำลังมอง

    100.00 ฿

© 2025 บริษัท โกลบอลโทรนิค อินเตอร์เทรด จํากัด, ขับเคลื่อนโดย Shopify

  • PayPal

เข้าสู่ระบบ

ลืมรหัสผ่านใช่ไหม?

ยังไม่มีบัญชีใช่ไหม?
สร้างบัญชี