สินค้าทั้งหมด (All products)

สินค้า 26 ชิ้น

  • ขาย -40% ชุดโปรเจกต์ Arduino Smart Farm ระบบรดน้ำอัตโนมัติ

    Global Pi Shop Arduino Project Smart Farm (ไม่มีสาย jumper)

    📚 Smart Farm เบื้องต้น ด้วย Arduino UNO R3 1. แนวคิดของโปรเจกต์ (Project Concept) ปัจจุบันการทำเกษตรแบบดั้งเดิมอาจมีปัญหาเรื่องการรดน้ำไม่สม่ำเสมอ หรือสิ้นเปลืองเวลาในการเดินทางไปดูแลพืชพรรณด้วยตัวเอง ดังนั้น เราจึงสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีง่ายๆ เพื่อสร้าง ระบบรดน้ำอัตโนมัติ (Automatic Watering System) โดยใช้บอร์ด Arduino และเซนเซอร์เข้ามาช่วยได้ หลักการของโปรเจกต์นี้คือ เมื่อเซนเซอร์ตรวจพบว่าดินมีความแห้งถึงระดับที่กำหนด ระบบจะสั่งให้ปั๊มน้ำทำงานเพื่อรดน้ำต้นไม้โดยอัตโนมัติ และจะหยุดเมื่อดินมีความชื้นที่เหมาะสมแล้ว ซึ่งช่วยประหยัดเวลา เพิ่มความสะดวกสบาย และเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลพืชได้อย่างง่ายดาย 2. อุปกรณ์ที่ใช้ในโปรเจกต์ (Required Components) ✅ Arduino UNO R3 พร้อมสาย USB ✅ Soil Moisture Sensor (เซนเซอร์วัดความชื้นในดิน) ✅ ปั๊มน้ำ DC 5V Mini (แบบแช่) ✅ โมดูลรีเลย์ 1 ช่อง (Relay 5V Module) ✅ สายจัมเปอร์ (Jumper Wires) ✅ บอร์ดทดลอง (Breadboard) หรือสายไฟสำหรับเชื่อมต่อ ✅ แหล่งจ่ายไฟเสริม 5V (สำหรับปั๊มน้ำ, ถ้าจำเป็น) ✅ สายยางขนาดเล็ก และภาชนะใส่น้ำ 3. การต่อวงจร (Wiring Diagram) 3.1 การต่อเซนเซอร์และรีเลย์ (ฝั่งควบคุม) อุปกรณ์ ขาบนอุปกรณ์ ต่อกับขาบน Arduino Soil Moisture Sensor VCC 5V GND GND A0 (Analog Out) A0 Relay Module VCC 5V GND GND IN (Input) D7 3.2 การต่อปั๊มน้ำผ่านรีเลย์ (ฝั่งโหลด) ข้อควรระวัง: ปั๊มน้ำ DC ใช้กระแสไฟสูง ไม่ควรต่อไฟ 5V จากบอร์ด Arduino โดยตรง เพราะอาจทำให้บอร์ดเสียหายได้ ควรใช้แหล่งจ่ายไฟ 5V แยกต่างหาก ต่อสาย ขั้วบวก (+) จาก แหล่งจ่ายไฟ 5V แยก เข้าที่ขา COM ของรีเลย์ ต่อสายจากขา NO (Normally Open) ของรีเลย์ เข้าที่ ขั้วบวก (+) ของปั๊มน้ำ ต่อสาย ขั้วลบ (-) ของปั๊มน้ำ เข้าที่ ขั้วลบ (-) ของ แหล่งจ่ายไฟ 5V แยก (สำคัญมาก) ต่อสายจาก GND ของ Arduino ไปยัง ขั้วลบ (-) ของ แหล่งจ่ายไฟ 5V แยก ด้วย เพื่อให้มีกราวด์ร่วมกัน (Common Ground) 4. โค้ดโปรแกรม (Arduino Code) // กำหนดขาที่เชื่อมต่อ const int sensorPin = A0; // ขา Analog สำหรับ Soil Moisture Sensor const int relayPin = 7; // ขา Digital สำหรับควบคุม Relay // กำหนดค่าความชื้น (ปรับค่านี้ตามความเหมาะสม) // ค่านี้คือจุดที่ตัดสินว่าดิน "แห้ง" และควรเริ่มรดน้ำ // ยิ่งค่าสูง -> ดินยิ่งแห้ง // ทดลองหาค่าที่เหมาะสมโดยดูจาก Serial Monitor const int moistureThreshold = 700; void setup() { Serial.begin(9600); // เริ่มการสื่อสารแบบ Serial เพื่อดูค่า pinMode(relayPin, OUTPUT); // กำหนดขา relay เป็น Output // เริ่มต้นโดยสั่งให้ปั๊มหยุดทำงาน (Relay ส่วนใหญ่เป็น Active LOW) digitalWrite(relayPin, HIGH); } void loop() { // อ่านค่าความชื้นจากเซนเซอร์ int moistureValue = analogRead(sensorPin); // แสดงผลค่าความชื้นที่อ่านได้ทาง Serial Monitor Serial.print("Soil Moisture = "); Serial.println(moistureValue); // ตรวจสอบเงื่อนไขเพื่อเปิด-ปิดปั๊มน้ำ if (moistureValue > moistureThreshold) { // ถ้าค่าความชื้นสูงกว่าที่กำหนด (ดินแห้ง) Serial.println("Soil is dry, turning pump ON"); digitalWrite(relayPin, LOW); // สั่งให้ Relay ทำงาน (ปั๊มเปิด) } else { // ถ้าค่าความชื้นต่ำกว่าที่กำหนด (ดินเปียก) Serial.println("Soil is wet, turning pump OFF"); digitalWrite(relayPin, HIGH); // สั่งให้ Relay หยุดทำงาน (ปั๊มปิด) } // หน่วงเวลา 2 วินาทีก่อนที่จะอ่านค่าครั้งต่อไป delay(2000); } 5. หลักการทำงานและวิธีทดสอบ หลักการทำงาน Arduino จะอ่านค่าความชื้นในดินแบบอนาล็อก (0-1023) จากขา A0 ตลอดเวลา โดยค่าที่อ่านได้จะแปรผกผันกับความชื้น (ดินแห้งค่าสูง, ดินเปียกค่าต่ำ) จากนั้นนำค่าที่ได้มาเทียบกับค่า `moistureThreshold` ที่เราตั้งไว้ หากค่าที่อ่านได้สูงกว่า แสดงว่าดินแห้ง Arduino ก็จะส่งสัญญาณ LOW ไปยังรีเลย์ ทำให้รีเลย์ทำงานและจ่ายไฟให้ปั๊มน้ำเริ่มรดน้ำ เมื่อดินชุ่มชื้นขึ้น ค่าที่อ่านได้จะลดลงจนต่ำกว่า `moistureThreshold` ระบบก็จะสั่งให้ปั๊มหยุดทำงาน วนแบบนี้ไปเรื่อยๆ วิธีทดสอบ หาค่า Threshold: อัปโหลดโค้ดลงบอร์ดแล้วเปิด Serial Monitor ขึ้นมา ทดลองนำเซนเซอร์ไปจุ่มในดินที่แห้งสนิท สังเกตค่าที่ได้ จากนั้นนำไปจุ่มในดินที่เปียกชุ่ม สังเกตค่าอีกครั้ง แล้วเลือกค่ากลางๆ หรือค่าที่เหมาะสมมาตั้งเป็น `moistureThreshold` ในโค้ด ทดสอบปั๊ม: ขณะที่เซนเซอร์อยู่ในอากาศ (สถานะแห้ง) ปั๊มน้ำควรจะทำงาน (รีเลย์มีเสียง "คลิก" และไฟติด) เมื่อนำเซนเซอร์ไปจุ่มน้ำ ปั๊มน้ำควรจะหยุดทำงาน ติดตั้งใช้งานจริง: นำเซนเซอร์ไปปักในกระถางต้นไม้ และนำปั๊มน้ำใส่ในภาชนะบรรจุน้ำเพื่อเริ่มใช้งานระบบรดน้ำอัตโนมัติ

    500.00 ฿ 300.00 ฿

  • ขาย -41% RPI 8MP CAMERA BOARD

    Global Pi Shop RPI 8MP CAMERA BOARD

    Raspberry Pi Camera Module V2 (8 Megapixel) Raspberry Pi Camera Module V2 คือบอร์ดเสริมกล้องคุณภาพสูงที่ออกแบบมาสำหรับ Raspberry Pi โดยเฉพาะ ใช้เซนเซอร์รับภาพ Sony IMX219 ความละเอียด 8 megapixel พร้อมเลนส์แบบ Fixed Focus ทำให้ได้ภาพถ่ายและวิดีโอที่คมชัด สีสันสมจริง เหมาะสำหรับโปรเจกต์ที่ต้องการคุณภาพของภาพถ่ายในระดับสูง คุณภาพสูงในขนาดกะทัดรัด โมดูลกล้องเชื่อมต่อกับบอร์ด Raspberry Pi ผ่านทางพอร์ต CSi (Camera Serial Interface) โดยใช้สายแพ (Ribbon Cable) ทำให้การติดตั้งง่ายและเป็นระเบียบ ตัวบอร์ดมีขนาดเล็กมาก เพียงประมาณ 25 x 23 x 9 มม. และมีน้ำหนักแค่ประมาณ 3 กรัม จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับโปรเจกต์ที่ต้องการความคล่องตัว หรือมีพื้นที่และน้ำหนักจำกัด เช่น หุ่นยนต์, โดรน, หรืออุปกรณ์พกพา คุณสมบัติเด่น (Key Features) เซนเซอร์รับภาพ Sony IMX219 คุณภาพสูง ความละเอียด 8 megapixel สามารถถ่ายภาพนิ่งได้ความละเอียดสูงสุดถึง 3280 x 2464 พิกเซล รองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียด 1080p30, 720p60 และ 640x480p90 ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา เหมาะกับงานที่ต้องการความคล่องตัวสูง เชื่อมต่อง่ายผ่านพอร์ต CSi โดยเฉพาะ ซอฟต์แวร์ทั้งหมดรองรับในระบบปฏิบัติการ Raspberry Pi OS เวอร์ชันล่าสุด ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค (Technical Specifications) เซนเซอร์ Sony IMX219 ความละเอียด 8 megapixel ความละเอียดภาพนิ่ง 3280 x 2464 pixels ความละเอียดวิดีโอ 1080p @ 30fps720p @ 60fps640x480p @ 90fps เลนส์ Fixed Focus การเชื่อมต่อ CSI Interface ขนาด ประมาณ 25 x 23 x 9 มม. น้ำหนัก ประมาณ 3 กรัม ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งาน (Application Examples) กล้องวงจรปิด (CCTV Security Camera): สร้างระบบรักษาความปลอดภัยของตัวเอง ระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว (Motion Detection): เริ่มบันทึกภาพหรือส่งแจ้งเตือนเมื่อมีการเคลื่อนไหว การถ่ายภาพแบบ Time-lapse: บันทึกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นช้าๆ เช่น การเจริญเติบโตของพืช หรือการเคลื่อนที่ของหมู่ดาว โปรเจกต์ Computer Vision และ AI: ใช้ในการจดจำใบหน้า, วัตถุ, หรือการอ่านป้ายทะเบียน กล้องติดหุ่นยนต์หรือโดรน: สำหรับการสำรวจหรือการควบคุมจากระยะไกล

  • ขาย -52% โมดูล Active Buzzer Sensor สำหรับ Arduino Pi ESP พร้อมสายฟรี และการเชื่อมต่อที่ง่าย

    Global Pi Shop โมดูล Active Buzzer Sensor สำหรับ Arduino Pi ESP

    Active Buzzer คืออะไร? วิธีสร้างเสียงแจ้งเตือนด้วย Arduino Active Buzzer (แอคทีฟบัซเซอร์) คือ อุปกรณ์กำเนิดเสียงประเภทหนึ่งที่ใช้งานง่ายมาก โดยจุดเด่นของมันคือมีวงจรสร้างความถี่เสียง (Oscillator) อยู่ภายในตัว ทำให้เราไม่ต้องเขียนโค้ดที่ซับซ้อนเพื่อสร้างความถี่เสียงเอง เพียงแค่จ่ายไฟเลี้ยง 3.3V-5V หรือส่งสัญญาณลอจิก "HIGH" จากไมโครคอนโทรลเลอร์เข้าไป Buzzer ก็จะส่งเสียง "ปี๊บ" แหลมๆ ออกมาได้ทันที ความแตกต่างระหว่าง Active vs Passive Buzzer Active Buzzer (ตัวนี้): มีวงจรสร้างเสียงในตัว แค่จ่ายไฟก็ดังทันที เหมาะกับเสียงเตือนง่ายๆ ที่มีความถี่เดียว Passive Buzzer: ไม่มีวงจรในตัว เป็นแค่ตัวกำเนิดเสียงเปล่าๆ ผู้ใช้ต้องเขียนโค้ดสร้างสัญญาณความถี่ (PWM) จาก Arduino เพื่อป้อนให้มันถึงจะมีเสียง เหมาะกับการสร้างเสียงที่มีหลายระดับโน้ตดนตรี สเปคของ Active Buzzer Module รายการ รายละเอียด แรงดันใช้งาน 3.3V – 5V (เหมาะกับ Arduino โดยตรง) กระแสใช้งาน ประมาณ 20 mA ประเภท Active Buzzer (มีวงจรสร้างเสียงในตัว) ความถี่เสียง ~2 – 3 kHz (เสียงแหลมมาตรฐาน) ระดับเสียง ประมาณ 85 dB @ 10 ซม. รูปแบบขา แบบโมดูล 3 ขา (VCC, GND, I/O) สถานะเสียง ส่งเสียงเมื่อขาอินพุตเป็น HIGH (หรือ LOW ขึ้นอยู่กับรุ่น) การใช้งานกับ Arduino ✅ การต่อสาย (โมดูล A322) VCC (หรือ +) → ต่อกับขา 5V บนบอร์ด Arduino GND (หรือ -) → ต่อกับขา GND บนบอร์ด Arduino I/O (หรือ S) → ต่อกับขาดิจิทัล (Digital Pin) ขาใดก็ได้ เช่น D8 ✅ ตัวอย่างโค้ดใช้งานง่าย โค้ดนี้จะสั่งให้ Buzzer ส่งเสียงดัง 1 วินาที และเงียบ 1 วินาที สลับกันไป // กำหนดขาที่ต่อกับ I/O ของ Buzzer int buzzerPin = 8; void setup() { // ตั้งค่าให้ buzzerPin เป็น OUTPUT pinMode(buzzerPin, OUTPUT); } void loop() { // สั่งเปิดเสียง Buzzer digitalWrite(buzzerPin, HIGH); delay(1000); // เปิดเสียงค้างไว้ 1 วินาที // สั่งปิดเสียง Buzzer digitalWrite(buzzerPin, LOW); delay(1000); // หยุดพัก 1 วินาที } ไอเดียการประยุกต์ใช้งาน โปรเจกต์ รายละเอียดการใช้งาน ระบบแจ้งเตือนภัย ใช้เป็นเสียง Alarm เมื่อเซนเซอร์ควัน, แก๊ส, หรือความร้อนตรวจพบค่่าผิดปกติ เครื่องจับความเคลื่อนไหว ส่งเสียงเตือนเมื่อเซนเซอร์ PIR (Passive Infrared) ตรวจจับการเคลื่อนไหวได้ ระบบเตือนระดับน้ำ ส่งเสียงดังเมื่อเซนเซอร์วัดระดับน้ำตรวจพบว่าน้ำสูงถึงจุดที่กำหนด นาฬิกาปลุก DIY ใช้เป็นตัวกำเนิดเสียงสำหรับปลุกตามเวลาที่ตั้งไว้ เสียงแจ้งสถานะ ใช้ส่งเสียง "ปี๊บ"สั้นๆ เพื่อยืนยันการทำงาน เช่น กดรหัสผ่านถูก, สแกนบัตรสำเร็จ ข้อดีของ Active Buzzer ใช้งานง่ายที่สุด: แค่จ่ายไฟหรือส่งสัญญาณ HIGH ก็มีเสียงดังทันที โค้ดไม่ซับซ้อน: ไม่จำเป็นต้องใช้คำสั่งสร้างความถี่ (PWM) ที่ยุ่งยาก ราคาถูก: เป็นวิธีเพิ่มเสียงแจ้งเตือนให้โปรเจกต์ที่ประหยัดที่สุด อเนกประสงค์: เหมาะกับงานแจ้งเตือนทุกรูปแบบที่ต้องการเสียงความถี่เดียว

    25.00 ฿ 12.00 ฿

  • ขาย -57% Soil moisture sensor module for Arduino with connected probes and wires, ideal for automation projects.

    Global Pi Shop เซ็นเซอร์วัดความชื้นดิน Soil Moisture Module Arduino

    Soil Moisture Sensor คืออะไร? วิธีใช้งานกับ Arduino เซ็นเซอร์วัดความชื้นในดิน (Soil Moisture Sensor) เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่นิยมใช้ในโปรเจกต์ Smart Farm, ระบบรดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ, และงานอดิเรกด้านพืชสวน เพราะสามารถทำงานร่วมกับ Arduino ได้ง่าย, ราคาถูก, และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเรียนรู้ระบบควบคุมอัตโนมัติ หลักการทำงาน เซนเซอร์ประเภทนี้ทำงานโดยอาศัยหลักการวัด **ค่าความต้านทานไฟฟ้าของดิน** ซึ่งแปรผันตามปริมาณน้ำ: ดินแห้ง: มีความต้านทานสูง (นำไฟฟ้าได้ไม่ดี) ดินชื้น: มีความต้านทานต่ำ (นำไฟฟ้าได้ดีขึ้น) โมดูลจะแปลงค่าความต้านทานนี้เป็นระดับแรงดันไฟฟ้า แล้วส่งออกมาเป็นสัญญาณ 2 รูปแบบ คือ Analog (ค่าต่อเนื่อง) และ Digital (มี/ไม่มี) สเปคของ Soil Moisture Sensor แรงดันไฟเลี้ยง 3.3V – 5V กระแสที่ใช้ ประมาณ 10-20 mA สัญญาณเอาต์พุต Analog (A0) และ Digital (D0) โครงสร้าง Probe 2 ขาสำหรับเสียบลงดิน และบอร์ดแปลงสัญญาณ การปรับค่า มี Potentiometer (VR) สำหรับปรับจุดตัด (Threshold) ของสัญญาณ Digital การใช้งานกับ Arduino 1. การต่อสาย ขาบนโมดูลเซนเซอร์ ต่อกับขาบน Arduino VCC 5V GND GND A0 (Analog Output) A0 (หรือขา Analog อื่นๆ) D0 (Digital Output) ขา Digital ใดก็ได้ (เช่น D2) 2. การอ่านค่าแบบ Analog (แนะนำวิธีนี้) การอ่านค่าแบบ Analog ให้ข้อมูลที่ละเอียดกว่า ทำให้เราสามารถกำหนดระดับความชื้นได้หลายระดับ const int sensorPin = A0; // กำหนดขา A0 สำหรับอ่านค่าจากเซนเซอร์ void setup() { Serial.begin(9600); // เริ่มการสื่อสารแบบ Serial } void loop() { int moistureValue = analogRead(sensorPin); // อ่านค่าอนาล็อก (0-1023) Serial.print("Soil Moisture Value: "); Serial.println(moistureValue); delay(1000); // รอ 1 วินาที ก่อนอ่านค่าครั้งต่อไป } การแปลผลค่า Analog: ค่าสูง (เช่น 800-1023): หมายถึงดินมีความต้านทานสูง = ดินแห้ง ค่าต่ำ (เช่น 100-300): หมายถึงดินมีความต้านทานต่ำ = ดินชื้น/เปียก เราสามารถนำค่านี้ไปใช้ตั้งเงื่อนไขในโปรเจกต์รดน้ำต้นไม้อัตโนมัติได้ เช่น `if (moistureValue > 700) { // สั่งรดน้ำ }` 3. การอ่านค่าแบบ Digital การอ่านค่าแบบ Digital จะให้ผลลัพธ์แค่ 2 สถานะ คือ "ชื้น" หรือ "แห้ง" ซึ่งเราสามารถปรับจุดตัดได้ที่ตัว Potentiometer บนโมดูล const int sensorDigitalPin = 2; // กำหนดขา D2 สำหรับอ่านค่า Digital void setup() { pinMode(sensorDigitalPin, INPUT); // กำหนดขาเป็น Input Serial.begin(9600); } void loop() { int digitalValue = digitalRead(sensorDigitalPin); // โดยทั่วไป โมดูลจะส่ง LOW เมื่อดินชื้น และ HIGH เมื่อดินแห้ง if (digitalValue == LOW) { Serial.println("สถานะ: ดินชื้น"); } else { Serial.println("สถานะ: ดินแห้ง"); } delay(1000); } เคล็ดลับเพิ่มเติม (Pro Tips) การกัดกร่อน: เซนเซอร์แบบนี้ไม่ควรเสียบแช่ในดินและจ่ายไฟตลอดเวลา เพราะจะทำให้ผิวของ Probe เกิดการกัดกร่อน (สนิม) ได้เร็ว ควรเขียนโค้ดให้จ่ายไฟเฉพาะตอนที่ต้องการวัดเท่านั้น (โดยใช้ขา Digital อีกขามาควบคุมไฟเลี้ยง) การนำไปใช้งาน: สามารถใช้ค่าที่อ่านได้ไปสั่งงาน โมดูลรีเลย์ (Relay Module) เพื่อควบคุมปั๊มน้ำหรือวาล์วไฟฟ้าสำหรับระบบรดน้ำอัตโนมัติ เซนเซอร์ทางเลือก: หากต้องการความแม่นยำและทนทานที่สูงกว่า แนะนำให้ลองใช้ Capacitive Soil Moisture Sensor ซึ่งวัดความชื้นโดยอาศัยหลักการของค่าประจุไฟฟ้าและไม่มีส่วนของโลหะที่สัมผัสดินโดยตรง ทำให้ทนทานและไม่ขึ้นสนิม

    35.00 ฿ 15.00 ฿

  • ขาย -27% MC-38 Magnetic Contact Sensor for Arduino, includes wire and a diode, perfect for door and window projects.

    Global Pi Shop เซ็นเซอร์ MC-38 Magnetic Contact สำหรับ Arduino Pi

    MC-38 คืออะไร? วิธีใช้สวิตช์แม่เหล็กสำหรับประตู/หน้าต่างกับ Arduino MC-38 คือ สวิตช์แม่เหล็ก (Magnetic Contact Sensor) หรือบางครั้งเรียกว่า Reed Switch Sensor เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจจับการเปิด-ปิดของวัตถุ เช่น ประตู หรือหน้าต่าง ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นแม่เหล็ก และส่วนที่เป็นสวิตช์ ซึ่งจะทำปฏิกิริยาต่อกันเมื่ออยู่ในระยะใกล้ ด้วยความง่ายในการติดตั้งและใช้งาน จึงนิยมนำไปใช้ในระบบกันขโมย, ระบบนับจำนวนการเปิด-ปิด, หรือใช้เป็นเซนเซอร์ตรวจจับตำแหน่งในโปรเจกต์ต่างๆ หลักการทำงาน ภายในตัวสวิตช์จะมีแผ่นโลหะบางๆ สองแผ่นที่ไม่สัมผัสกัน (วงจรเปิด) แต่เมื่อนำแม่เหล็กเข้ามาใกล้ในระยะที่กำหนด สนามแม่เหล็กจะเหนี่ยวนำให้แผ่นโลหะทั้งสองดูดติดกัน ทำให้วงจรเชื่อมต่อกัน (วงจรปิด) และเมื่อนำแม่เหล็กออกห่าง แผ่นโลหะก็จะแยกจากกันอีกครั้ง สเปคของ MC-38 แรงดันไฟฟ้าที่รองรับ 3V – 24V DC (ใช้งานกับ 5V ของ Arduino ได้) กระแสที่รองรับ สูงสุดประมาณ 100 mA ระยะการทำงาน ประมาณ 15 – 25 มม. (ขึ้นอยู่กับแรงแม่เหล็ก) ชนิดสวิตช์ Normally Open (NO) → สถานะปกติวงจรจะ "เปิด" (ไม่เชื่อมต่อ) และจะ "ปิด" (เชื่อมต่อ) เมื่อแม่เหล็กอยู่ใกล้ วัสดุ พลาสติก ABS, มีเทปกาวและรูสำหรับยึดน็อต สายไฟ 2 เส้น (ไม่มีขั้ว) การใช้งานกับ Arduino ✅ การต่อสาย การต่อวงจรนั้นง่ายมาก โดยใช้ประโยชน์จาก Pull-up Resistor ภายในของ Arduino: สายจาก MC-38 ต่อกับขาบน Arduino สายเส้นที่ 1 ขา Digital ใดก็ได้ (เช่น D2) สายเส้นที่ 2 GND การใช้ INPUT_PULLUP การตั้งค่า pinMode(sensorPin, INPUT_PULLUP); ในโค้ดเป็นการสั่งให้ Arduino เปิดใช้งานตัวต้านทานภายในที่ต่อกับไฟ 5V ทำให้ในสถานะปกติ (ประตูเปิด) ขา D2 จะอ่านค่าได้เป็น HIGH และเมื่อประตูถูกปิด (แม่เหล็กอยู่ใกล้) สวิตช์จะทำงานและดึงไฟลงกราวด์ ทำให้ขา D2 อ่านค่าได้เป็น LOW ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้เราไม่ต้องต่อตัวต้านทานภายนอกเพิ่ม ✅ ตัวอย่างโค้ด Arduino โค้ดนี้จะอ่านสถานะของสวิตช์แม่เหล็กและแสดงผลทาง Serial Monitor ว่าประตูเปิดหรือปิดอยู่ // กำหนดขาที่ต่อกับ MC-38 const int sensorPin = 2; void setup() { // ตั้งค่าขาเป็น Input และเปิดใช้ Pull-up Resistor ภายใน pinMode(sensorPin, INPUT_PULLUP); Serial.begin(9600); Serial.println("Magnetic Door Sensor Test"); } void loop() { // อ่านสถานะจากเซนเซอร์ int sensorState = digitalRead(sensorPin); // ตรวจสอบสถานะ if (sensorState == LOW) { // เมื่อแม่เหล็กอยู่ใกล้ (ประตู/หน้าต่างปิด) Serial.println("สถานะ: ประตูปิด"); } else { // เมื่อแม่เหล็กอยู่ห่าง (ประตู/หน้าต่างเปิด) Serial.println("สถานะ: ประตูเปิด!"); } delay(500); // หน่วงเวลาเล็กน้อย } 💡 การประยุกต์ใช้งาน โปรเจกต์ การประยุกต์ใช้ MC-38 ระบบกันขโมยบ้าน ติดตั้งที่ประตูและหน้าต่าง เพื่อส่งเสียงเตือนหรือแจ้งเตือนผ่าน Line เมื่อมีการเปิด ระบบนับคนเข้า-ออก ติดตั้งที่ประตูเพื่อนับจำนวนครั้งของการเปิด-ปิด หุ่นยนต์หรือแขนกล ใช้เป็น Limit Switch เพื่อตรวจจับตำแหน่งสุดแขนหรือกลไกที่เคลื่อนที่ ระบบความปลอดภัยในตู้ ตรวจสอบสถานะว่าตู้เก็บของสำคัญถูกเปิดทิ้งไว้หรือไม่ ระบบเตือนเปิดประตูตู้เย็น ส่งเสียง Buzzer เตือนหากประตูตู้เย็นถูกเปิดค้างไว้นานเกินไป ข้อดีและข้อควรระวัง ✅ ข้อดี ราคาถูกมากและติดตั้งง่ายด้วยเทปกาวหรือน็อต ไม่ต้องการพลังงานในการทำงาน (เป็นแค่สวิตช์) มีความทนทานสูงและอายุการใช้งานยาวนาน ไม่ต้องเขียนโปรแกรมซับซ้อน ใช้เพียง `digitalRead` ทำงานโดยไม่ต้องสัมผัสโดยตรง (Contactless) ⚠️ ข้อควรระวัง ตัว Reed Switch ที่อยู่ภายในค่อนข้างบอบบาง ควรระวังการกระแทกแรงๆ ห้ามใช้กับแรงดันหรือกระแสไฟฟ้าที่เกินสเปคกำหนด เพราะจะทำให้หน้าสัมผัสของสวิตช์ละลายติดกันและเสียหายถาวรได้

    30.00 ฿ 22.00 ฿

  • ขาย -32% IR Infrared Sensor module for Arduino, featuring a compact design and LED indicators, ideal for object detection projects.

    Global Pi Shop เซ็นเซอร์ IR อินฟราเรด สำหรับ Arduino Pi ESP32

    IR Infrared Sensor คืออะไร? วิธีใช้งานตรวจจับวัตถุด้วย Arduino IR Sensor หรือ เซ็นเซอร์อินฟราเรด คือเซ็นเซอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่นิยมใช้ในการตรวจจับวัตถุในระยะใกล้ หรือใช้ตรวจจับการสะท้อนของแสงอินฟราเรด เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่สำคัญสำหรับโปรเจกต์หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติต่างๆ หลักการทำงานของ IR Sensor การทำงานของเซนเซอร์นั้นตรงไปตรงมาและเข้าใจง่าย: ภาคส่ง (Transmitter): โมดูลจะปล่อยลำแสงอินฟราเรด (ซึ่งตาคนมองไม่เห็น) ออกไปจากตัวส่ง (IR LED) ภาครับ (Receiver): เมื่อลำแสงนั้นไปกระทบกับวัตถุ มันจะสะท้อนกลับมา และถูกตรวจจับโดยตัวรับแสงอินฟราเรด (Photodiode หรือ Phototransistor) การส่งสัญญาณ: เมื่อภาครับตรวจจับแสงสะท้อนได้ วงจรบนโมดูลจะส่งสัญญาณดิจิทัล (0 หรือ 1) ออกมาที่ขา OUT เพื่อแจ้งให้ไมโครคอนโทรลเลอร์ (เช่น Arduino) ทราบว่า "มีวัตถุอยู่ด้านหน้า" สเปคของ IR Sensor Module (สำหรับ Arduino) รายการ รายละเอียด แรงดันใช้งาน 3.3V – 5V (ใช้ไฟจากบอร์ด Arduino ได้โดยตรง) ระยะตรวจจับ ประมาณ 2 – 30 ซม. (ขึ้นอยู่กับสีและความเรียบของผิววัตถุ) เอาต์พุต ดิจิทัล (Digital) ส่งค่า 0 หรือ 1 การปรับความไว สามารถปรับได้ด้วยตัวต้านทานปรับค่าได้ (VR) บนบอร์ด ไฟแสดงสถานะ มี LED แสดงสถานะการทำงาน (มักจะสว่างเมื่อตรวจพบวัตถุ) อินเตอร์เฟส 3 ขา: VCC, GND, OUT การใช้งานกับ Arduino ✅ การต่อสาย VCC → ต่อกับขา 5V บนบอร์ด Arduino GND → ต่อกับขา GND บนบอร์ด Arduino OUT → ต่อกับขาดิจิทัล (Digital Pin) ขาใดก็ได้ เช่น D2 ✅ ตัวอย่างโค้ดใช้งานง่าย โค้ดนี้จะอ่านค่าจาก IR Sensor และเมื่อตรวจพบวัตถุ จะสั่งให้ LED บนบอร์ด (ขา 13) ติดสว่าง พร้อมทั้งแสดงข้อความใน Serial Monitor int irPin = 2; // ขาที่รับสัญญาณจากเซนเซอร์ int ledPin = 13; // LED Build-in บนบอร์ด Arduino void setup() { pinMode(irPin, INPUT); // กำหนดให้ขา irPin เป็น Input pinMode(ledPin, OUTPUT); // กำหนดให้ขา ledPin เป็น Output Serial.begin(9600); // เริ่มการสื่อสารแบบ Serial } void loop() { int objectState = digitalRead(irPin); // อ่านค่าจากเซนเซอร์ // ตรวจสอบสถานะ: เซนเซอร์บางรุ่นจะให้ค่า LOW เมื่อเจอวัตถุ if (objectState == LOW) { digitalWrite(ledPin, HIGH); // เปิด LED Serial.println("พบวัตถุ!"); } else { digitalWrite(ledPin, LOW); // ปิด LED Serial.println("ไม่พบวัตถุ"); } delay(200); // หน่วงเวลาเพื่อลดการอ่านค่าที่เร็วเกินไป } หมายเหตุ: เอาต์พุตของ IR Sensor แต่ละรุ่นอาจแตกต่างกัน บางรุ่นส่งค่า LOW (0) เมื่อเจอวัตถุ แต่บางรุ่นอาจส่งค่า HIGH (1) แนะนำให้ทดลองเพื่อตรวจสอบการทำงานของเซนเซอร์ที่คุณมี ไอเดียการประยุกต์ใช้งาน (Application Ideas) โปรเจกต์ รายละเอียดการใช้งาน หุ่นยนต์เดินตามเส้น ใช้ IR Sensor หลายตัวติดไว้ใต้หุ่นยนต์เพื่อตรวจจับเส้นสีดำบนพื้นสีขาว หุ่นยนต์หลบสิ่งกีดขวาง ติดตั้งไว้ด้านหน้าหุ่นยนต์เพื่อตรวจจับกำแพงหรือสิ่งของแล้วสั่งให้เลี้ยวหลบ เครื่องนับจำนวนสินค้า ติดตั้งไว้ข้างสายพานลำเลียง เพื่อนับจำนวนสินค้าที่เคลื่อนที่ผ่าน ระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ใช้ตรวจจับมือหรือวัตถุที่เข้ามาใกล้เพื่อสั่งเปิดก๊อกน้ำ หรือถังขยะ สวิตช์ไร้สัมผัส (Touchless Switch) ใช้แทนปุ่มกด เพื่อลดการสัมผัส เหมาะสำหรับยุคปัจจุบัน ข้อดีของ IR Sensor ราคาถูกมาก หาซื้อง่าย ใช้งานง่าย มีเพียง 3 ขา และโค้ดไม่ซับซ้อน ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ใช้ได้กับไมโครคอนโทรลเลอร์หลากหลาย เช่น Arduino, ESP8266, ESP32

    25.00 ฿ 17.00 ฿

  • ขาย -38% HC-SR04P ultrasonic sensor for Arduino with free wires included, suitable for robotics and distance measurement projects.

    Global Pi Shop เซ็นเซอร์ HC-SR04P Ultrasonic สำหรับ Arduino Robotics

    HC-SR04P คืออะไร? วิธีวัดระยะทางด้วย Ultrasonic Sensor และ Arduino HC-SR04P คือ เซนเซอร์อัลตร้าโซนิค (Ultrasonic Sensor) สำหรับวัดระยะห่างระหว่างตัวเซนเซอร์กับวัตถุ โดยอาศัยหลักการส่งคลื่นเสียงความถี่สูง (40 kHz) ออกไป และจับเวลาที่คลื่นเสียงนั้นเดินทางไปกระทบวัตถุแล้วสะท้อนกลับมา จากนั้นจึงนำค่าเวลามาคำนวณเป็นระยะทาง เซนเซอร์รุ่นนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในโปรเจกต์หุ่นยนต์หลบหลีกสิ่งกีดขวาง, ระบบตรวจจับวัตถุ, การวัดระดับน้ำในถัง และอื่นๆ อีกมากมาย HC-SR04P vs HC-SR04 (รุ่นเก่า): จุดเด่นสำคัญของรุ่น P คือการรองรับแรงดันไฟฟ้าได้ทั้ง 3.3V และ 5V ทำให้สามารถใช้งานได้กับบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ที่หลากหลายมากขึ้น เช่น ESP32, Raspberry Pi โดยไม่ต้องใช้วงจรแปลงระดับแรงดัน (Logic Level Shifter) เพิ่มเติม สเปคของ HC-SR04P แรงดันไฟฟ้าที่รองรับ 3.0V – 5.5V DC กระแสขณะทำงาน ประมาณ 8 mA ช่วงวัดระยะ 2 ซม. – 400 ซม. (4 เมตร) ความแม่นยำ ประมาณ ±3 มม. มุมการวัด ประมาณ 15° อินเทอร์เฟซ ดิจิทัล (ใช้ขา Trig สำหรับส่ง และ Echo สำหรับรับ) ขาเชื่อมต่อ 4 ขา (VCC, Trig, Echo, GND) การใช้งานกับ Arduino ✅ การต่อสาย ขาบน HC-SR04P ต่อกับขาบน Arduino UNO VCC 5V (หรือ 3.3V) GND GND Trig (Trigger) ขา Digital ใดก็ได้ (เช่น D9) Echo ขา Digital ใดก็ได้ (เช่น D10) ✅ ตัวอย่างโค้ด Arduino โค้ดนี้จะสั่งให้เซนเซอร์วัดระยะทางทุกๆ ครึ่งวินาที แล้วแสดงผลเป็นหน่วยเซนติเมตรทาง Serial Monitor // กำหนดขา Trig และ Echo const int trigPin = 9; const int echoPin = 10; void setup() { Serial.begin(9600); // เริ่มการสื่อสารแบบ Serial pinMode(trigPin, OUTPUT); pinMode(echoPin, INPUT); } void loop() { long duration; float distance; // สร้างพัลส์สั้นๆ ที่ขา Trig เพื่อสั่งให้เซนเซอร์ส่งคลื่นเสียง digitalWrite(trigPin, LOW); delayMicroseconds(2); digitalWrite(trigPin, HIGH); delayMicroseconds(10); digitalWrite(trigPin, LOW); // อ่านค่าเวลาที่คลื่นเสียงใช้เดินทางไป-กลับ (หน่วยเป็น microsecond) duration = pulseIn(echoPin, HIGH); // คำนวณเป็นระยะทาง (หน่วยเป็นเซนติเมตร) // สูตร: ระยะทาง = (ความเร็วเสียง * เวลา) / 2 // ความเร็วเสียง = 340 m/s หรือ 0.034 cm/μs distance = duration * 0.034 / 2; // แสดงผล Serial.print("Distance: "); Serial.print(distance); Serial.println(" cm"); delay(500); // หน่วงเวลา 0.5 วินาที ก่อนวัดครั้งต่อไป } 💡 ไอเดียการประยุกต์ใช้งาน โปรเจกต์ การใช้งาน HC-SR04P หุ่นยนต์หลบหลีกสิ่งกีดขวาง ติดตั้งไว้ด้านหน้าหุ่นยนต์เพื่อวัดระยะจากกำแพงหรือสิ่งของ แล้วสั่งให้เลี้ยวหลบ เซนเซอร์วัดระดับน้ำ ติดตั้งไว้เหนือผิวน้ำในถัง เพื่อวัดระยะห่างและคำนวณระดับน้ำที่เหลืออยู่ ระบบช่วยจอดรถ ติดตั้งไว้ท้ายรถเพื่อวัดระยะจากวัตถุด้านหลัง พร้อมส่งเสียงเตือนเมื่อเข้าใกล้เกินไป ระบบเปิดประตู/ก๊อกน้ำอัตโนมัติ ใช้ตรวจจับมือหรือบุคคลที่เข้ามาในระยะเพื่อสั่งงานอุปกรณ์ ไม้บรรทัดดิจิทัล สร้างเครื่องมือวัดระยะทางแบบพกพา แสดงผลบนจอ OLED หรือ LCD ข้อดีและข้อควรระวัง ✅ ข้อดีของ HC-SR04P รองรับทั้ง 3.3V และ 5V ทำให้ใช้งานได้กับบอร์ดหลากหลายรุ่นโดยตรง ใช้งานง่าย มีโค้ดและตัวอย่างมากมายให้ศึกษา ราคาประหยัด เป็นเซนเซอร์วัดระยะทางที่คุ้มค่าที่สุดตัวหนึ่ง วัดได้ไกลและแม่นยำ เพียงพอสำหรับโปรเจกต์ส่วนใหญ่ (สูงสุด 4 เมตร) ⚠️ ข้อควรระวัง ไม่กันน้ำ ตัวเซนเซอร์ไม่ควรโดนน้ำหรือความชื้นโดยตรง พื้นผิวของวัตถุมีผลต่อการวัด วัตถุที่นุ่มหรือดูดซับเสียง (เช่น ผ้า, ฟองน้ำ) อาจทำให้วัดค่าได้ไม่แม่นยำ การรบกวนของคลื่น หากใช้งานหลายตัวพร้อมกันในบริเวณใกล้เคียง อาจเกิดการรบกวนของคลื่นเสียงได้

    40.00 ฿ 25.00 ฿

  • ขาย -32% DC water pump 3-5V for Arduino, ESP32, and Raspberry Pi projects with free resistor.

    Global Pi Shop ปั๊มน้ำ DC 3.3V/5V สำหรับ Arduino ESP

    DC Water Pump (3V-5V): คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับชาว Maker DC Water Pump คืออะไร? DC Water Pump คือ ปั๊มน้ำขนาดเล็กที่ทำงานด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่นิยมอย่างมากในงาน DIY และโปรเจคด้านอิเล็กทรอนิกส์ เหมาะสำหรับการดูดและส่งน้ำจากภาชนะหนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เช่น: ระบบรดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ ระบบน้ำไหลเวียนสำหรับตู้ปลา หรือถังน้ำ เครื่องให้อาหารสัตว์เลี้ยงอัตโนมัติ โปรเจคที่ต้องการการควบคุมการไหลของของเหลว สามารถควบคุมการทำงานผ่านไมโครคอนโทรลเลอร์อย่าง Arduino, ESP8266, ESP32 ได้ง่ายๆ โดยต่อผ่านโมดูลควบคุม เช่น Relay หรือ Transistor Module เพื่อจัดการกับกระแสไฟฟ้าที่สูงกว่าขา I/O จะจ่ายไหว ⚠️ ข้อควรจำที่สำคัญ ควรใช้งาน DC Pump ร่วมกับ ทรานซิสเตอร์หรือ Relay Module เสมอ เนื่องจากปั๊มน้ำกินกระแสไฟฟ้ามากเกินกว่าที่ขา I/O ของ Arduino จะสามารถจ่ายได้โดยตรง การต่อตรงอาจทำให้บอร์ดของคุณเสียหายได้ ข้อมูลจำเพาะ (Specification) ของ DC Water Pump (3.3V / 5V) รายการ รายละเอียด แรงดันไฟฟ้าใช้งาน 3.3V – 5V (เหมาะกับ Arduino, ESP8266, ESP32) กระแสใช้งาน ~100 – 300 mA (ขึ้นอยู่กับรุ่นและภาระงาน) อัตราการไหล (Flow rate) ประมาณ 80 – 120 ลิตร/ชั่วโมง ระยะส่งน้ำแนวตั้ง (Head height) ประมาณ 0.5 – 1 เมตร วัสดุ พลาสติก ABS กันน้ำ สายไฟ 2 เส้น (แดง = VCC, ดำ = GND) การทำงานต่อเนื่อง สามารถทำงานต่อเนื่องได้ แต่ควรมีการพักเป็นระยะหากทำงานโดยไม่มีน้ำ เพื่อป้องกันความร้อนสะสม การใช้งานกับ Arduino ✅ การต่อวงจรด้วยทรานซิสเตอร์โมดูล (เช่น IRF520, TIP120) การใช้โมดูลทรานซิสเตอร์เป็นวิธีที่นิยมและปลอดภัยในการควบคุมปั๊มน้ำ: อุปกรณ์ ต่อเข้ากับ โมดูลทรานซิสเตอร์: ขา IN ขาดิจิทัลของ Arduino (เช่น D8) โมดูลทรานซิสเตอร์: ขา VCC 5V จากแหล่งจ่ายไฟ (แนะนำให้ใช้แหล่งจ่ายแยกจาก Arduino) โมดูลทรานซิสเตอร์: ขา GND GND ของ Arduino (ต้องเชื่อมต่อ GND ร่วมกัน) สายไฟปั๊ม + (สีแดง) ต่อกับขั้ว V+ ของโมดูล สายไฟปั๊ม - (สีดำ) ต่อกับขั้ว OUT- หรือ GND ของโมดูล ✅ ตัวอย่างโค้ด Arduino เปิด-ปิดปั๊มน้ำ โค้ดนี้จะสั่งให้ปั๊มน้ำทำงานเป็นเวลา 5 วินาที และหยุดพัก 10 วินาที วนไปเรื่อยๆ // กำหนดขาที่ต่อกับโมดูลทรานซิสเตอร์ int pumpPin = 8; void setup() { // ตั้งค่าให้ pumpPin เป็น OUTPUT pinMode(pumpPin, OUTPUT); // เริ่มต้นโดยให้ปั๊มหยุดทำงาน digitalWrite(pumpPin, LOW); } void loop() { // สั่งเปิดปั๊มน้ำ digitalWrite(pumpPin, HIGH); delay(5000); // ทำงานเป็นเวลา 5 วินาที // สั่งปิดปั๊มน้ำ digitalWrite(pumpPin, LOW); delay(10000); // หยุดพักเป็นเวลา 10 วินาที } ไอเดียการประยุกต์ใช้งาน (Application Ideas) โปรเจกต์ รายละเอียดและอุปกรณ์ที่ใช้ร่วม รดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ ใช้ร่วมกับเซ็นเซอร์วัดความชื้นในดิน (Soil Moisture Sensor) เพื่อสั่งเปิด-ปิดปั๊มเมื่อดินแห้ง ระบบกรองน้ำตู้ปลาขนาดเล็ก ตั้งเวลาเปิด-ปิดเพื่อสร้างการไหลเวียนของน้ำผ่านระบบกรอง เครื่องให้น้ำสัตว์เลี้ยง ควบคุมผ่าน NodeMCU/ESP32 เพื่อสั่งงานผ่าน Wi-Fi หรือตั้งเวลาให้น้ำ ระบบน้ำหยดอัจฉริยะ เหมาะสำหรับปลูกพืชที่ต้องการการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอและแม่นยำ ✅ ข้อดี ราคาถูก น้ำหนักเบา ใช้งานง่ายกับไมโครคอนโทรลเลอร์ เช่น Arduino ขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับงาน DIY และพื้นที่จำกัด ใช้แรงดันไฟฟ้าต่ำ (3.3V / 5V) ทำให้หาแหล่งจ่ายไฟง่าย ⚠️ ข้อควรระวัง ห้ามเดินปั๊มแบบไม่มีน้ำเด็ดขาด (Dry Running) เพราะจะทำให้เกิดความร้อนสูงและมอเตอร์อาจเสียหายได้อย่างรวดเร็ว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแหล่งจ่ายไฟ (Power Supply) สามารถจ่ายกระแสได้เพียงพอ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานกับแบตเตอรี่

  • ขาย -75% MQ-2 Smoke Gas Sensor For Arduino

    Global Pi Shop MQ-2 Smoke Gas Sensor For Arduino

    MQ-2 คืออะไร? วิธีใช้เซนเซอร์ตรวจจับควันและแก๊สรั่วกับ Arduino MQ-2 คือ ก๊าซเซนเซอร์ (Gas Sensor) ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในโปรเจกต์ Arduino และงานอดิเรกด้านอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากเป็นเซนเซอร์ที่มีความไวสูง สามารถตรวจจับได้ทั้งควันไฟและก๊าซไวไฟหลายชนิด เหมาะสำหรับนำไปสร้างเป็นระบบเตือนภัยแก๊สรั่วหรือระบบตรวจจับควันไฟในบ้าน หลักการทำงานของเซนเซอร์คือ ภายในจะมีขดลวดทำความร้อนและตัวตรวจจับที่ทำจากดีบุกไดออกไซด์ (SnO₂) ซึ่งค่าความต้านทานของมันจะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อสัมผัสกับโมเลกุลของก๊าซในอากาศ ทำให้เราสามารถวัดการเปลี่ยนแปลงนั้นออกมาเป็นสัญญาณไฟฟ้าได้ MQ-2 ตรวจจับก๊าซอะไรได้บ้าง? เซนเซอร์ MQ-2 มีความไวต่อก๊าซไวไฟหลายชนิด โดยเฉพาะ: ก๊าซ LPG (ก๊าซหุงต้ม) ก๊าซ Butane ก๊าซ Propane ก๊าซ Methane (CH₄) ก๊าซ Hydrogen (H₂) ควันไฟ (Smoke) แอลกอฮอล์ (Alcohol) สเปคของ MQ-2 แรงดันไฟเลี้ยง 5V DC กำลังไฟฟ้าที่ใช้ ประมาณ 800mW ประเภทสัญญาณ Analog (AOUT) และ Digital (DOUT) เวลาอุ่นเครื่อง (Warm-up) ประมาณ 20 วินาที ถึง 2 นาที ช่วงการตรวจจับ 300 - 10,000 ppm (ส่วนในล้านส่วน) ขาเชื่อมต่อ 4 ขา: VCC, GND, AOUT, DOUT ข้อควรทราบ: เซนเซอร์ประเภทนี้ต้องใช้เวลาในการ "อุ่นเครื่อง" (Warm-up) เพื่อให้ขดลวดความร้อนภายในมีอุณหภูมิคงที่เสียก่อน ค่าที่อ่านได้ในช่วงแรกจึงอาจยังไม่แม่นยำ ควรปล่อยให้เซนเซอร์ทำงานสักครู่ก่อนนำค่าไปใช้งานจริง การใช้งาน MQ-2 กับ Arduino 1. การต่อสาย ขาบนโมดูล MQ-2 ต่อกับขาบน Arduino VCC 5V GND GND AOUT (Analog Out) A0 (หรือขา Analog อื่นๆ) DOUT (Digital Out) ขา Digital ใดก็ได้ (เช่น D2) 2. ตัวอย่างโค้ดใช้งานแบบ Analog (วัดระดับความเข้มข้น) การอ่านค่าแบบ Analog จะให้ค่า 0-1023 ซึ่งแปรผันตามความเข้มข้นของก๊าซ (ยิ่งค่าสูง แสดงว่ามีความเข้มข้นมาก) const int mq2Pin = A0; // กำหนดขา A0 สำหรับอ่านค่า Analog void setup() { Serial.begin(9600); } void loop() { int gasLevel = analogRead(mq2Pin); // อ่านค่า (0-1023) Serial.print("Gas Level: "); Serial.println(gasLevel); delay(1000); // รอ 1 วินาที ก่อนอ่านค่าครั้งต่อไป } 3. ตัวอย่างโค้ดใช้งานแบบ Digital (แจ้งเตือน) การอ่านค่าแบบ Digital จะให้ค่าแค่ LOW (0) หรือ HIGH (1) เท่านั้น โดยโมดูลจะส่งค่า LOW เมื่อระดับก๊าซเกินจุดที่ตั้งไว้ด้วย Potentiometer บนบอร์ด const int mq2DigitalPin = 2; // กำหนดขา D2 สำหรับอ่านค่า Digital void setup() { pinMode(mq2DigitalPin, INPUT); Serial.begin(9600); } void loop() { int gasDetected = digitalRead(mq2DigitalPin); // โดยทั่วไป โมดูลจะส่ง LOW เมื่อตรวจพบแก๊สเกินค่าที่ตั้งไว้ if (gasDetected == LOW) { Serial.println("ตรวจพบแก๊สหรือควัน!"); } else { Serial.println("สถานะปกติ"); } delay(1000); } ไอเดียการประยุกต์ใช้งาน ระบบเตือนภัยแก๊สรั่วในครัว: เมื่อตรวจพบก๊าซ LPG เกินระดับ ให้ส่งเสียง Buzzer เตือน หรือส่ง LINE Notify เครื่องตรวจจับควันไฟ: ใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบป้องกันอัคคีภัย แจ้งเตือนเมื่อมีควันหนาแน่น เครื่องวัดคุณภาพอากาศ (เบื้องต้น): ใช้ตรวจจับมลพิษในอากาศ (เช่น ควัน, แอลกอฮอล์) เครื่องเป่าแอลกอฮอล์ (DIY): สร้างเครื่องจำลองการวัดระดับแอลกอฮอล์จากลมหายใจ

    100.00 ฿ 25.00 ฿

  • NRF24L01 Module

    Global Pi Shop NRF24L01 Module

    NRF24L01: โมดูลสื่อสารไร้สาย 2.4GHz NRF24L01 คือโมดูลรับ-ส่งสัญญาณไร้สาย (Transceiver) แบบ Single-chip ที่ทำงานบนย่านความถี่ 2.4-2.5GHz ซึ่งเป็นย่าน ISM ที่สามารถใช้งานได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องขอใบอนุญาต เป็นโมดูลที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในโปรเจกต์ Arduino และ Embedded Systems ต่างๆ เนื่องจากมีราคาถูก, ประหยัดพลังงาน, และใช้งานง่าย คุณสมบัติเด่น (Key Features) ความเร็วสูง: สามารถตั้งค่าความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลได้สูงสุดถึง 2Mbps ทำให้ใช้เวลาส่งข้อมูลในอากาศสั้นมาก ลดโอกาสการชนกันของสัญญาณ ประหยัดพลังงานมาก (Low Power): ใช้กระแสไฟต่ำมาก เหมาะสำหรับโปรเจกต์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ รองรับการสื่อสารหลายจุด: มีช่องสัญญาณให้เลือกใช้ถึง 125 ช่อง และรองรับการรับข้อมูลได้พร้อมกัน 6 ช่องสัญญาณ ทำให้สร้างเครือข่ายเซนเซอร์ไร้สายได้ ขนาดกะทัดรัด: มีขนาดเล็กเพียง 15x29 มม. พร้อมเสาอากาศในตัว (On-board Antenna) จัดการโปรโตคอลในตัว: มีฟังก์ชันจัดการการสื่อสารระดับสูงในตัว เช่น การส่งแพ็คเก็ตข้อมูลซ้ำอัตโนมัติเมื่อเกิดข้อผิดพลาด (Auto re-transmit) และการส่งสัญญาณตอบรับ (Auto-acknowledge) ช่วยลดภาระของไมโครคอนโทรลเลอร์ เชื่อมต่อง่ายผ่าน SPI: สามารถเชื่อมต่อกับไมโครคอนโทรลเลอร์ผ่านอินเทอร์เฟซ SPI ได้โดยตรง ข้อมูลจำเพาะ (Specifications) ย่านความถี่ 2.4 - 2.5 GHz (ISM Band) แรงดันไฟฟ้าใช้งาน 1.9V – 3.6V อัตราการส่งข้อมูล 250kbps, 1Mbps, 2Mbps (ตั้งค่าผ่านซอฟต์แวร์) ระยะทำการ สูงสุดประมาณ 100 เมตรในที่โล่ง อินเทอร์เฟซ SPI (Serial Peripheral Interface) ขนาด ประมาณ 15 x 29 มม. (รวมเสาอากาศ) ข้อควรระวังที่สำคัญในการใช้งาน โมดูล NRF24L01 ทำงานที่แรงดันไฟฟ้า 1.9V - 3.6V เท่านั้น (เป็นอุปกรณ์ 3.3V) ห้ามต่อขา VCC เข้ากับไฟ 5V ของ Arduino โดยตรง เพราะจะทำให้โมดูลเสียหายถาวรได้ ควรต่อกับขา 3.3V ของ Arduino ขา SPI (MOSI, MISO, SCK, CSN, CE) ก็เป็น Logic 3.3V เช่นกัน หากใช้กับบอร์ด 5V เช่น Arduino Uno ควรใช้วงจรแปลงระดับแรงดัน (Logic Level Shifter) หรือใช้อะแดปเตอร์สำหรับ NRF24L01 ที่มีวงจรแปลงแรงดันในตัว เพื่อความปลอดภัยและเสถียรภาพในการทำงาน การประยุกต์ใช้งาน สร้างระบบควบคุมหุ่นยนต์หรือรถบังคับไร้สาย สร้างเครือข่ายเซนเซอร์ไร้สาย (Wireless Sensor Network) สำหรับ Smart Farm หรือ Smart Home ส่งข้อมูลระหว่างบอร์ด Arduino สองตัวหรือมากกว่า ทำรีโมทคอนโทรลสำหรับโปรเจกต์ต่างๆ ระบบแจ้งเตือนหรือติดตามแบบไร้สาย

    39.00 ฿

  • ขาย -38% PIR HC-SR501 motion sensor for arduino

    Global Pi Shop PIR HC-SR501 motion sensor for arduino

    PIR Sensor HC-SR501 คืออะไร? วิธีใช้งานกับ Arduino HC-SR501 คือเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว (Motion Sensor) ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ทำงานโดยใช้หลักการของ PIR (Passive Infrared) ซึ่งหมายถึงเป็นเซนเซอร์ที่คอย "รับ" หรือ "ดักจับ" รังสีอินฟราเรดที่แผ่ออกมาจากวัตถุที่มีความร้อน เช่น ร่างกายของมนุษย์หรือสัตว์ โดยตัวมันเองไม่ได้ปล่อยรังสีใดๆ ออกไป เมื่อมีคนหรือสัตว์เคลื่อนที่ผ่านหน้าเซนเซอร์ จะทำให้ปริมาณรังสีอินฟราเรดที่ตกกระทบมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว วงจรภายในจะตรวจจับการเปลี่ยนแปลงนี้และส่งสัญญาณลอจิก "HIGH" ออกมา เพื่อแจ้งให้ไมโครคอนโทรลเลอร์ทราบว่า "มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น" สเปคของ HC-SR501 แรงดันใช้งาน 4.5V – 20V DC (ใช้กับ 5V ของ Arduino ได้เลย) แรงดันลอจิกเอาต์พุต 3.3V (แต่เพียงพอสำหรับขา Digital ของ Arduino อ่านค่า HIGH ได้) กระแสที่ใช้ ~50 μA (ประหยัดพลังงานมาก เหมาะกับงานแบตเตอรี่) ระยะตรวจจับ ปรับได้ประมาณ 3 ถึง 7 เมตร (ปรับด้วย Potentiometer สีส้ม) มุมตรวจจับ ประมาณ 120 องศา (รูปกรวย) เวลาหน่วง (Delay Time) ปรับได้ประมาณ 0.3 วินาที ถึง 5 นาที (ปรับด้วย Potentiometer สีส้ม) โหมดการทำงาน ปรับได้ 2 โหมด ด้วย Jumper บนบอร์ด การปรับโหมดการทำงาน (สำคัญมาก) บนบอร์ดจะมี Jumper ให้เลือกโหมดได้ 2 แบบ: Repeatable (H): หาก Jumper อยู่ตำแหน่ง H (ค่าเริ่มต้น) เซนเซอร์จะส่งสัญญาณ HIGH "ตลอดเวลา" ที่ยังคงตรวจจับการเคลื่อนไหวได้ และจะเริ่มนับเวลาหน่วงใหม่ทุกครั้งที่เจอการเคลื่อนไหวซ้ำ (เหมาะกับไฟอัตโนมัติ) Non-Repeatable (L): หาก Jumper อยู่ตำแหน่ง L เซนเซอร์จะส่งสัญญาณ HIGH เพียง "ครั้งเดียว" ตามเวลาหน่วงที่ตั้งไว้ แม้จะยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ก็ตาม จากนั้นจะส่ง LOW และรอสักครู่ก่อนจะเริ่มตรวจจับใหม่ (เหมาะกับระบบเตือนภัย) การใช้งานกับ Arduino ✅ การต่อสายกับ Arduino ขาบน HC-SR501 ต่อกับขาบน Arduino VCC 5V GND GND OUT ขา Digital ใดก็ได้ (เช่น D2) ✅ ตัวอย่างโค้ด Arduino (ตรวจจับการเคลื่อนไหว) โค้ดนี้จะอ่านค่าจาก PIR Sensor และเมื่อตรวจพบการเคลื่อนไหว จะสั่งให้ LED บนบอร์ด (ขา 13) ติดสว่าง // กำหนดขาที่เชื่อมต่อ const int pirPin = 2; // ขาที่รับสัญญาณจาก OUT ของ PIR Sensor const int ledPin = 13; // ขา LED Build-in บนบอร์ด Arduino void setup() { pinMode(pirPin, INPUT); // กำหนดให้ขา pirPin เป็น Input pinMode(ledPin, OUTPUT); // กำหนดให้ขา ledPin เป็น Output Serial.begin(9600); // เริ่มการสื่อสารแบบ Serial Serial.println("PIR Motion Sensor Test"); } void loop() { // อ่านค่าสถานะจาก PIR Sensor int motionState = digitalRead(pirPin); // ตรวจสอบสถานะ if (motionState == HIGH) { digitalWrite(ledPin, HIGH); // เปิด LED Serial.println("ตรวจพบการเคลื่อนไหว!"); } else { digitalWrite(ledPin, LOW); // ปิด LED Serial.println("สถานะปกติ..."); } // หน่วงเวลาเพื่อลดการแสดงผลที่เร็วเกินไป delay(500); } 💡 การประยุกต์ใช้งาน โปรเจกต์ รายละเอียดการใช้งาน ระบบเตือนภัยบุกรุก ส่งเสียงเตือนหรือแจ้งเตือนผ่าน Line เมื่อมีคนเดินผ่านในบริเวณที่กำหนด ไฟทางเดิน/ห้องน้ำอัตโนมัติ เปิดไฟเมื่อมีคนเดินเข้ามาในพื้นที่ และปิดไฟเมื่อไม่พบการเคลื่อนไหวแล้ว ระบบบ้านอัจฉริยะ ใช้เป็นตัวกระตุ้น (Trigger) เพื่อสั่งงานอุปกรณ์อื่น เช่น เปิดแอร์, เปิดพัดลม เมื่อมีคนอยู่ในห้อง กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ สั่งให้ ESP32-CAM หรือกล้องอื่นเริ่มบันทึกภาพเมื่อตรวจพบการเคลื่อนไหว ระบบประหยัดพลังงาน ใช้ปลุกไมโครคอนโทรลเลอร์ (เช่น ESP32) จากโหมด Deep Sleep เมื่อมีคนเข้ามาใกล้ ⭐ ข้อดีของ HC-SR501 ใช้งานง่าย: มีเพียง 3 ขา และให้สัญญาณเป็น Digital ทำให้เขียนโค้ดไม่ซับซ้อน ประหยัดพลังงานมาก: ใช้กระแสไฟน้อยมากในสถานะสแตนด์บาย เหมาะกับงานที่ใช้แบตเตอรี่ ปรับแต่งได้: สามารถปรับระยะการตรวจจับและเวลาหน่วงได้ตามความต้องการของโปรเจกต์ เข้ากันได้ดี: ทำงานได้กับ Arduino, ESP8266, ESP32, และ Raspberry Pi

    65.00 ฿ 40.00 ฿

  • Grove Base Kit for Raspberry Pi

    Global Pi Shop Grove Base Kit for Raspberry Pi

    ชุดเริ่มต้นเรียนรู้ Raspberry Pi ที่ง่ายที่สุดด้วย Grove Base Kit ก้าวเข้าสู่โลกของ Raspberry Pi ได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมด้วย Grove Base Kit for Raspberry Pi ชุดคิทที่ออกแบบมาสำหรับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียน, ครู, ศิลปิน, หรือผู้ที่หลงใหลในฮาร์ดแวร์ ชุดนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและเริ่มต้นสร้างสรรค์โปรเจกต์กับ Raspberry Pi ได้อย่างง่ายดาย ด้วยระบบคอนเนคเตอร์ของ Grove ทำให้การต่อวงจรเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องใช้ Breadboard หรือหัวแร้งบัดกรี เพียงแค่เสียบสายก็พร้อมใช้งานได้ทันที มาพร้อมคู่มือและบทเรียนออนไลน์ เราได้จัดเตรียมคู่มือการใช้งาน Raspberry Pi และโมดูลแต่ละตัวไว้อย่างละเอียด ประกอบด้วย 8 บทเรียน ที่คุณสามารถเข้าไปดูได้ที่แท็บ LEARN และยังมีวิดีโอสอนการใช้งานชุดคิทนี้แบบทีละขั้นตอนอีกด้วย อุปกรณ์ทั้งหมดในชุด (Part List) Grove Base Hat for Raspberry Pi Grove - Red LED Button Grove - Buzzer Grove - Moisture Sensor Grove - Temperature & Humidity Sensor (DHT11) Grove - Light Sensor Grove - mini PIR motion sensor Grove - Ultrasonic Ranger Grove - Relay Grove - Servo Grove - 16 x 2 LCD (White on Blue)

    1,800.00 ฿

  • Elecfreaks Smart Home Kit for Micro:bit

    Global Pi Shop Elecfreaks Smart Home Kit for Micro:bit

    เรียนเขียนโค้ดผ่านโปรเจกต์ DIY ด้วยชุด micro:bit Smart Home Kit Smart Home Kit for micro:bit จาก ELECFREAKS คือชุดอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อการเรียนรู้และสร้างสรรค์โปรเจกต์บ้านอัจฉริยะโดยเฉพาะ ภายในชุดได้รวบรวมเซนเซอร์และอุปกรณ์ที่นิยมใช้ในบ้าน เช่น เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ, เซนเซอร์เสียง, เซอร์โวมอเตอร์, และอื่นๆ ทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานจำลองสถานการณ์ต่างๆ เช่น การเปิด-ปิดหน้าต่าง, ตู้เสื้อผ้าอัจฉริยะ, หรือระบบดูแลตู้ปลา และเขียนโปรแกรมควบคุมด้วยบอร์ด micro:bit ได้อย่างชาญฉลาด ข้อควรทราบ: ชุดสินค้านี้ **ไม่รวม** บอร์ด micro:bit และแบตเตอรี่ อุปกรณ์ครบครันในชุดเดียว (Packing List) บอร์ดขยาย Sensor:bit จอ OLED Crash E-Blocks (เซนเซอร์การชน) TMP36 Temperature Sensor Rainbow LED Ring (8 LEDs) เซนเซอร์วัดความชื้นในดิน เซอร์โวมอเตอร์ (180°) มอเตอร์พร้อมใบพัด ปั๊มน้ำขนาดเล็กพร้อมสายยาง ชุดสกรู สายจัมเปอร์ ตัวอย่างโปรเจกต์ที่สร้างได้ หน้าต่างอัตโนมัติ (Auto Windows) สร้างระบบตรวจจับระดับเสียงรบกวน และสั่งให้หน้าต่าง (จำลองโดยเซอร์โว) ปิดเองโดยอัตโนมัติเมื่อมีเสียงดังเกินค่าที่กำหนด ไฟเปิด-ปิดด้วยเสียง (Voice-activated Lights) ออกแบบระบบไฟอัจฉริยะที่ควบคุมการเปิด-ปิดด้วยเสียง โดยใช้เซนเซอร์เสียงและเซนเซอร์วัดแสงเพื่อสร้างเงื่อนไขการทำงาน พัดลมอัจฉริยะ (Smart Fan) สร้างพัดลมที่ทำงานโดยอัตโนมัติเมื่ออุณหภูมิสูงเกินค่าที่กำหนด พร้อมแสดงผลอุณหภูมิปัจจุบันบนหน้าจอ OLED เรียนรู้และพัฒนาอย่างมืออาชีพ รองรับการเขียนโปรแกรมหลากหลาย: สามารถเลือกใช้เครื่องมือที่ถนัดได้ทั้ง MakeCode (Block-based), JavaScript, และ MicroPython ส่วนขยาย (Extension) เป็นทางการ: แพ็คเกจสำหรับเขียนโปรแกรมควบคุมชุดคิทนี้ได้รับการรับรองและรวบรวมไว้ใน MakeCode อย่างเป็นทางการ ทำให้เริ่มต้นได้ง่าย แหล่งข้อมูลการเรียนรู้ครบครัน: มาพร้อมคู่มือและบทเรียนออนไลน์ผ่าน ELECFREAKS WIKI ช่วยให้คุณเข้าใจแนวคิดพื้นฐานและนำไปประยุกต์ใช้จริงได้อย่างรวดเร็ว

    1,800.00 ฿ - 2,400.00 ฿

  • Elecfreaks micro:bit Starter Kit packaging with breadboard, components, and educational graphics.

    Global Pi Shop Elecfreaks Microbit Starter Kit

    ชุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดสำหรับ ю. Maker: ELECFREAKS micro:bit Starter Kit micro:bit Starter Kit จาก ELECFREAKS ออกแบบมาสำหรับเด็กและผู้เริ่มต้นที่ต้องการเรียนรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวงจรอิเล็กทรอนิกส์และความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม นักเรียนสามารถใช้ชุดอุปกรณ์ DIY พื้นฐานนี้เพื่อสร้างสรรค์และทำการทดลองต่างๆ ได้มากมาย เช่น การสร้างไฟจราจร, การใช้เซนเซอร์วัดแสง (Photocell) เพื่อควบคุมหน้าจอของ micro:bit หรือหลอด LED ข้อควรทราบ: ชุดสินค้านี้ **อาจไม่รวม** บอร์ด micro:bit กรุณาตรวจสอบรายละเอียดก่อนสั่งซื้อ อุปกรณ์ทั้งหมดในชุด (Packing List) บอร์ดขยาย micro:bit Breakout Board บอร์ดทดลอง (Breadboard) เซอร์โวมอเตอร์ (180°) มอเตอร์พร้อมใบพัด TMP36 Temperature Sensor Photocell (เซนเซอร์วัดแสง) LED สีแดง, เหลือง, เขียว ตัวต้านทานปรับค่าได้ (Potentiometer) สายจัมเปอร์ (Jumper Wires) สาย Micro USB รางถ่าน ตัวอย่างโปรเจกต์ที่สร้างได้ ไฟจราจรจำลอง เรียนรู้การเขียนโปรแกรมควบคุมลำดับการทำงานของ LED สีแดง, เหลือง, เขียว เพื่อสร้างแบบจำลองสัญญาณไฟจราจร พัดลมอัจฉริยะ ใช้เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ TMP36 เพื่อสร้างพัดลมที่เปิดทำงานเองเมื่ออากาศร้อนถึงระดับที่กำหนด เครื่องดนตรีเทเรมิน ใช้เซนเซอร์วัดแสง (Photocell) ในการควบคุมระดับเสียง Buzzer สร้างเป็นเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ง่ายๆ เรียนรู้และพัฒนาอย่างสนุกสนาน ชุดคิทนี้เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการเปลี่ยนแนวคิดนามธรรมของการเขียนโค้ดให้กลายเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจหลักการทำงานของเซนเซอร์, มอเตอร์, และการเขียนโปรแกรมเชิงตรรกะผ่านการลงมือทำจริง

    1,200.00 ฿ - 1,800.00 ฿

  • ELECFREAKS micro:bit Drone:bit Kit (Without micro:bit Board)

    Global Pi Shop ELECFREAKS micro:bit Drone:bit Kit (Without micro:bit Board)

    Drone:bit Kit: ทะยานสู่ฟ้าด้วยการเขียนโค้ดกับ micro:bit micro:bit Drone:bit Kit คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างบอร์ด micro:bit และอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เพื่อเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้นักเรียนได้สร้างสรรค์และสำรวจท้องฟ้า ผ่านการเขียนโปรแกรม คุณสามารถสั่งให้โดรนบินรักษาระดับความสูงคงที่, บินตามจุดที่กำหนด (Waypoint), บินโค้ง, หรือแม้กระทั่งตีลังกากลางอากาศได้! นี่คือชุดโดรน micro:bit เกรดโปรเฟสชันนอลชุดแรกของคุณ ข้อควรทราบ: ชุดสินค้านี้ **ไม่รวม** บอร์ด micro:bit ก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยเทคโนโลยีระดับโปร การระบุตำแหน่งแม่นยำ เป็นโดรนเพื่อการศึกษารุ่นแรกของโลกที่มาพร้อม Optical Flow Sensor และ TOF Sensor ทำให้สามารถบินลอยตัวนิ่งในอาคาร (Indoor Hovering) ณ จุดที่กำหนดได้อย่างแม่นยำผ่านการเขียนโปรแกรม ปลอดภัยสำหรับใช้งานในห้องเรียน ด้วยการ์ดป้องกันใบพัดที่ปิดสนิทและแข็งแรง ทำให้มั่นใจได้ว่า Drone:bit ของคุณจะบินได้อย่างปลอดภัย เหมาะสำหรับใช้งานในห้องเรียนหรือในอาคาร เขียนโค้ดสร้างท่าบินสุดท้าทาย รองรับการเขียนโปรแกรมทั้งแบบกราฟิก (MakeCode) และ Python ทำให้สามารถสร้างสรรค์เส้นทางการบินที่ซับซ้อน, ควบคุมด้วยท่าทาง, หรือสั่งให้โดรนตีลังกาได้ตามจินตนาการ ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค (Specification) แรงดันไฟฟ้า 3.7V ความจุแบตเตอรี่ 800mAh พอร์ตชาร์จ Micro-USB (5V, 0.8A) ระบบป้องกันแบตเตอรี่ มีระบบป้องกันการชาร์จ/คายประจุเกิน การ์ดป้องกันใบพัด มี (Support) เซนเซอร์รักษาระดับความสูง Barometer + TOF Sensor เซนเซอร์ระบุตำแหน่ง Optical Flow Sensor การควบคุม รองรับการเขียนโปรแกรมผ่าน micro:bit และรีโมทคอนโทรล 2.4G ระยะเวลาบิน ประมาณ 8 นาที เพดานบินสูงสุด ไม่เกิน 100 เมตร น้ำหนักรวม 509 กรัม อุปกรณ์ในชุด (Packing List) โครงโดรน Drone:bit รีโมทคอนโทรล แบตเตอรี่ Li-ion ใบพัด (ชุดปกติ + สำรอง) สายชาร์จ USB คู่มือการใช้งาน

  • สินค้าเหลือจำนวนจำกัด! BBC Micro:bit V2

    Global Pi Shop BBC Micro:bit V2

    MEFV22C is a BBC micro:bit CLUB contains 10x BBC micro:bit V2 boards and all essentials needed to power boards and start programming. This BBC micro:bit is a pocket-sized computer that introduces you to how SW and HW work together. It has an LED light display, buttons, sensors, a speaker, microphone and many other input/output features that, when programmed, let it interact with you and your world. You will need a computer, tablet or phone to write and send code to the micro:bit, but once the code is on the micro:bit it works as a standalone device with just the battery pack. Bluetooth 5.1 connectivity with Bluetooth Low Energy (BLE), ideal for communicating with other devices such as smartphones and tablets. micro:bit works with Microsoft, MacOS, Apple iPads(and iPhones) and Android devices Computing is made physical Use the micro:bit to sense, measure and log light, temperature, sound, movement, magnetism Nordic nRF52833 processor with 512KB flash and 128KB RAM 5x5 LED display matrix, 25 red LEDs with 255-step intensity control 2 programmable tactile button for user funct, full speed USB 2.0 interface via micro USB connection New notched edge connector makes it easier to connect things like crocodile clip, conductive thread MEMS Microphone with LED indicator, dedicated I2C bus for peripherals Onboard speaker, capacitive touch sensor, motion sensor and temperature sensors LED matrix can be used to sense ambient light with software algorithm

    650.00 ฿

  • ขาย -40% Breadboard 400 รู for Raspberry Pi และ arduino

    Global Pi Shop Breadboard 400 รู for Raspberry Pi และ arduino

    Breadboard 400 รู: บอร์ดทดลองขนาดกะทัดรัดสำหรับทุกโปรเจกต์ Breadboard (เบรดบอร์ด) 400 รู คือแผ่นสำหรับทดลองวงจรอิเล็กทรอนิกส์แบบไม่ต้องบัดกรี (Solderless) ที่มีขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและโปรเจกต์ที่ไม่ซับซ้อนมาก เช่น วงจรไฟกระพริบ, การอ่านค่าเซนเซอร์พื้นฐาน, หรือการควบคุม LED ด้วยปุ่มกด สามารถใช้สร้างวงจรต้นแบบ (Prototype) ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ข้อมูลจำเพาะ (Specifications) จำนวนรูทั้งหมด 400 รู พื้นที่จ่ายไฟ (Power Rail) 2 แถวคู่ (บน-ล่าง), รวม 100 รู พื้นที่อุปกรณ์ (Terminal Strip) 300 รู ขนาดโดยประมาณ 8.2 x 5.5 ซม. วัสดุ พลาสติก ABS พร้อมเทปกาวด้านล่างสำหรับยึดติด คุณสมบัติพิเศษ มีรอยต่อด้านข้างสำหรับเชื่อมกับ Breadboard ชิ้นอื่นเพื่อขยายพื้นที่ การใช้งานกับ Raspberry Pi และ Arduino ต่อกับ Arduino ได้โดยตรง: บอร์ด Arduino ส่วนใหญ่ (เช่น UNO, Nano) มีขาแบบ Male Pin ที่สามารถใช้สาย Jumper แบบผู้-ผู้ (Male-to-Male) เชื่อมต่อมายัง Breadboard ได้ทันที ทำให้สะดวกอย่างยิ่ง ต่อกับ Raspberry Pi ผ่าน GPIO: สามารถเชื่อมต่อได้โดยใช้สาย Jumper แบบผู้-เมีย (Male-to-Female) หรือใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง T-Cobbler และสายแพ GPIO 40 pin เพื่อจำลองขา GPIO ทั้งหมดมาไว้บน Breadboard ทำให้ต่อวงจรได้ง่ายและเป็นระเบียบ ตัวอย่างโปรเจกต์ที่เหมาะสม โปรเจกต์ อุปกรณ์หลักที่ใช้ วงจรไฟกระพริบ LED + ตัวต้านทาน เซนเซอร์วัดอุณหภูมิและความชื้น DHT11 / DHT22 + จอ OLED สวิตช์ควบคุมอุปกรณ์ ปุ่มกด (Push Button) + โมดูลรีเลย์ 5V ระบบแจ้งเตือนความชื้นในดิน Soil Moisture Sensor + Buzzer Smart Farm (เบื้องต้น) ใช้ร่วมกับ ESP32/ESP8266 เพื่อควบคุมผ่าน Wi-Fi ข้อดีของ Breadboard 400 รู ขนาดกะทัดรัด: ไม่เปลืองพื้นที่ เหมาะกับโต๊ะทำงานที่มีจำกัดและโปรเจกต์ขนาดเล็กถึงกลาง ไม่ต้องบัดกรี: สามารถแก้ไข, ปรับเปลี่ยน, หรือรื้อวงจรได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว เข้ากันได้ดี: ใช้งานได้กับไมโครคอนโทรลเลอร์ยอดนิยมทุกตระกูล ราคาถูก: เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่มีราคาไม่แพงและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ 📌 หมายเหตุ: หากโปรเจกต์ของคุณมีขนาดใหญ่และต้องใช้อุปกรณ์จำนวนมาก เช่น เซนเซอร์หลายตัว, โมดูลรีเลย์หลายช่อง, จอแสดงผล, และปุ่มกดหลายปุ่ม การเลือกใช้ Breadboard ขนาด 830 รู หรือนำขนาด 400 รูมาต่อกัน 2 แผ่น อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า  

    25.00 ฿ 15.00 ฿

  • ขาย -38% DHT11 Humidity and Temperature sensor For Arduino Nodemcu ESP32

    Global Pi Shop DHT11 Humidity and Temperature sensor For Arduino Nodemcu ESP32

    DHT11 คืออะไร? วิธีใช้งานเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิและความชื้น DHT11 คือเซนเซอร์ดิจิทัลสำหรับวัด อุณหภูมิ (Temperature) และ ความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity) ในอากาศ เป็นหนึ่งในเซนเซอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับโปรเจกต์ Arduino และงานอดิเรกด้านอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากใช้งานง่าย, ราคาถูก, และให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำในระดับหนึ่ง ภายในตัว DHT11 ประกอบด้วยตัววัดความชื้นแบบ Capacitive และตัววัดอุณหภูมิแบบ Thermistor พร้อมวงจรแปลงสัญญาณ Analog เป็น Digital ทำให้สามารถส่งข้อมูลออกมาทางสายสัญญาณเพียงเส้นเดียวได้ สเปคของ DHT11 ช่วงวัดความชื้น 20–90% RH (ความคลาดเคลื่อน ±5% RH) ช่วงวัดอุณหภูมิ 0–50°C (ความคลาดเคลื่อน ±2°C) แรงดันไฟเลี้ยง 3.3V – 5.5V สัญญาณเอาต์พุต ดิจิทัล (แบบ Single-wire bus) อัตราการอ่านข้อมูล สูงสุด 1 ครั้งต่อวินาที (1Hz) จำนวนขา 3 หรือ 4 ขา (หากเป็นโมดูลจะใช้จริง 3 ขา) การใช้งาน DHT11 กับ Arduino 1. การต่อสาย ขาบน DHT11 ต่อกับขาบน Arduino VCC (หรือ +) 5V GND (หรือ -) GND DATA (หรือ OUT) ขา Digital ใดก็ได้ (เช่น D2) หมายเหตุ: หากใช้เซนเซอร์ DHT11 แบบ 4 ขาที่ไม่มีแผงวงจร (โมดูล) อาจต้องต่อตัวต้านทาน Pull-up ขนาด 4.7KΩ - 10KΩ ระหว่างขา VCC และขา DATA ด้วย แต่ถ้าเป็นแบบโมดูล (3 ขา) ส่วนใหญ่จะมีตัวต้านทานนี้มาให้แล้ว 2. การติดตั้งไลบรารี ก่อนเขียนโค้ด จำเป็นต้องติดตั้งไลบรารีสำหรับ DHT Sensor ก่อน: เปิดโปรแกรม Arduino IDE ไปที่เมนู Tools > Manage Libraries... ในช่องค้นหา พิมพ์ "DHT sensor library" มองหาไลบรารีจาก Adafruit และกดปุ่ม "Install" (โปรแกรมอาจถามให้ติดตั้งไลบรารีอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย ให้กด Install all) 3. ตัวอย่างโค้ด Arduino โค้ดนี้จะอ่านค่าอุณหภูมิและความชื้นจาก DHT11 ทุกๆ 2 วินาที แล้วแสดงผลทาง Serial Monitor #include <DHT.h> // กำหนดขาและประเภทของเซนเซอร์ #define DHTPIN 2 // ขา DATA ของ DHT11 ต่อกับขา D2 ของ Arduino #define DHTTYPE DHT11 // กำหนดประเภทเซนเซอร์เป็น DHT11 // สร้าง object ของ DHT DHT dht(DHTPIN, DHTTYPE); void setup() { Serial.begin(9600); Serial.println("DHT11 test!"); // เริ่มต้นการทำงานของเซนเซอร์ dht.begin(); } void loop() { // รอ 2 วินาทีก่อนที่จะอ่านค่าครั้งต่อไป delay(2000); // อ่านค่าความชื้น float h = dht.readHumidity(); // อ่านค่าอุณหภูมิเป็นเซลเซียส float t = dht.readTemperature(); // อ่านค่าอุณหภูมิเป็นฟาเรนไฮต์ (ถ้าต้องการ) // float f = dht.readTemperature(true); // ตรวจสอบว่าการอ่านค่าสำเร็จหรือไม่ if (isnan(h) || isnan(t)) { Serial.println("Failed to read from DHT sensor!"); return; // ออกจาก loop แล้วเริ่มใหม่ } // แสดงผลค่าที่อ่านได้ Serial.print("ความชื้น: "); Serial.print(h); Serial.print(" %\t"); Serial.print("อุณหภูมิ: "); Serial.print(t); Serial.println(" *C"); }  

    40.00 ฿ 25.00 ฿

  • ขาย -27% บอร์ด ESP8266 NodeMCU WiFi สำหรับ IoT พร้อมใช้งานกับ Arduino IDE และ Micro:bit

    Global Pi Shop บอร์ด NodeMCU ESP8266 WiFi สำหรับ IoT

    NodeMCU ESP8266 คืออะไร ? เริ่มต้นโปรเจค IoT ด้วย Arduino IDE NodeMCU ESP8266 คือบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ใช้ชิป ESP8266 เป็นหัวใจหลักในการประมวลผล จุดเด่นที่สำคัญที่สุดคือ **ความสามารถในการเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ในตัว** ในราคาที่ประหยัดมาก และยังสามารถเขียนโปรแกรมควบคุมผ่าน Arduino IDE ที่เราคุ้นเคยได้เป็นอย่างดี ทำให้มันกลายเป็นบอร์ดที่นิยมอันดับต้นๆ สำหรับงานด้าน IoT (Internet of Things) เช่น การควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าผ่านอินเทอร์เน็ต หรือการส่งข้อมูลจากเซนเซอร์ขึ้นไปยังเว็บไซต์และฐานข้อมูลออนไลน์ แม้ชื่อ “NodeMCU” จะมาจากการที่มันถูกออกแบบมาให้เขียนโปรแกรมด้วยภาษา Lua ในช่วงแรก แต่ในปัจจุบัน การเขียนด้วยภาษา C/C++ ผ่าน Arduino IDE ได้รับความนิยมมากกว่าอย่างแพร่หลาย สเปค NodeMCU ESP8266 (Specification) ชิปหลัก ESP8266 (ESP-12E หรือ ESP-12F) ความเร็ว CPU 80 MHz (โอเวอร์คล็อกได้ถึง 160 MHz) หน่วยความจำ (Flash) 4MB SRAM (RAM) 64KB Wi-Fi 802.11 b/g/n (2.4GHz) รองรับโหมด Station และ Access Point แรงดันใช้งาน 3.3V (แต่สามารถรับไฟ 5V ผ่านพอร์ต USB ได้) พอร์ต USB ใช้ชิป CH340 หรือ CP2102 สำหรับการสื่อสารและอัปโหลดโค้ด GPIO 11 ขา (รองรับ PWM, ADC, I2C, SPI) ADC 1 ขา (อ่านค่า Analog ได้ในช่วง 0–1V เท่านั้น) แรงดันขา Digital 3.3V (สำคัญมาก!) การใช้งาน NodeMCU ESP8266 สำหรับ IoT (Use Cases) จุดเด่นการใช้งาน เชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ในตัว โดยไม่ต้องพึ่งโมดูลเสริม อัปโหลดโค้ดและจ่ายไฟได้ง่ายๆ ผ่านสาย Micro USB เส้นเดียว ทำงานร่วมกับบริการออนไลน์ต่างๆ เช่น เว็บเซิร์ฟเวอร์, แอปพลิเคชันมือถือ, และฐานข้อมูลออนไลน์ได้เป็นอย่างดี รองรับเครื่องมือพัฒนายอดนิยมทั้ง Arduino IDE และ PlatformIO ตัวอย่างการใช้งานยอดนิยม ควบคุมหลอดไฟ, รีเลย์, หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่าน Wi-Fi สร้าง Web Server ในตัวบอร์ดเพื่อสร้างหน้าเว็บควบคุมอุปกรณ์ผ่านเบราว์เซอร์ ส่งข้อมูลจากเซนเซอร์ (DHT11, MQ-2, Soil Moisture) ไปยังบริการ IoT Platform เช่น Firebase, ThingSpeak, Blynk ทำหน้าที่เป็น Node สำหรับส่งข้อมูลในระบบ MQTT สร้างระบบแจ้งเตือนผ่าน LINE Notify หรือ Telegram เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ตัวอย่างโค้ด Arduino: สร้าง Web Server ง่ายๆ โค้ดนี้จะทำให้ NodeMCU เชื่อมต่อ Wi-Fi ของคุณ และสร้างหน้าเว็บที่แสดงข้อความ "Hello from NodeMCU!" เมื่อคุณเข้าถึง IP Address ของบอร์ดผ่านเว็บเบราว์เซอร์ #include <ESP8266WiFi.h> // --- กรุณาแก้ไขชื่อและรหัสผ่าน Wi-Fi ของคุณ --- const char* ssid = "YOUR_WIFI_NAME"; const char* password = "YOUR_WIFI_PASSWORD"; // ------------------------------------------ WiFiServer server(80); // สร้าง Server ที่ Port 80 void setup() { Serial.begin(115200); // เริ่มต้นการเชื่อมต่อ Wi-Fi WiFi.begin(ssid, password); // รอจนกว่าจะเชื่อมต่อสำเร็จ while (WiFi.status() != WL_CONNECTED) { delay(500); Serial.print("."); } Serial.println("\nWiFi connected!"); // แสดง IP Address ที่ได้รับ Serial.print("IP Address: "); Serial.println(WiFi.localIP()); // เริ่มต้น Web Server server.begin(); } void loop() { WiFiClient client = server.available(); // รอรับการเชื่อมต่อจาก Client if (!client) { return; } // รอจนกว่า client จะส่งข้อมูลมา while (!client.available()) { delay(1); } // ส่งข้อมูล HTML กลับไปให้ Client (Web Browser) client.println("HTTP/1.1 200 OK"); client.println("Content-Type: text/html"); client.println("Connection: close"); client.println(); client.println("<!DOCTYPE HTML>"); client.println("<html>"); client.println("<h1>Hello from NodeMCU ESP8266!</h1>"); client.println("</html>"); delay(1); client.stop(); // จบการเชื่อมต่อ } คำถามที่พบบ่อย (FAQ) NodeMCU ESP8266 เหมาะกับใคร? เหมาะสำหรับนักเรียน, นักพัฒนา, ผู้ที่เริ่มต้นโปรเจกต์ IoT, หรือผู้ที่ต้องการสร้างระบบควบคุมอุปกรณ์ผ่านอินเทอร์เน็ตในราคาประหยัด ใช้ NodeMCU กับ Arduino IDE ได้ไหม? ได้ 100% และเป็นวิธีที่นิยมที่สุด เพียงติดตั้งบอร์ด ESP8266 ผ่านเมนู Board Manager ในโปรแกรม Arduino IDE ก็สามารถเขียนโค้ดและอัปโหลดได้ทันที ต่างจาก ESP32 อย่างไร? ESP32 เป็นรุ่นที่ใหม่และมีทรัพยากรมากกว่า เช่น CPU dual-core, มี Bluetooth ในตัว, และมีขา GPIO มากกว่า ในขณะที่ ESP8266 จะเน้นการใช้งานทั่วไปที่ต้องการ Wi-Fi เป็นหลัก และมีราคาที่ประหยัดกว่า NodeMCU ทนแรงดัน 5V ได้ไหม? พอร์ต Micro USB สามารถรับไฟ 5V ได้ เพราะมีวงจรแปลงแรงดันในตัว แต่ขา GPIO ทั้งหมดทำงานที่แรงดัน 3.3V เท่านั้น หากต้องการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้ Logic 5V ควรมีวงจรแปลงระดับแรงดัน (Logic Level Shifter) เพื่อป้องกันความเสียหาย 📌 NodeMCU ESP8266 คือบอร์ดที่ดีที่สุดสำหรับใครก็ตามที่กำลังเริ่มต้นกับ IoT และต้องการบอร์ดราคาถูก, ใช้งานง่าย, และมี Wi-Fi ในตัว

    150.00 ฿ 110.00 ฿

  • ขาย -23% บอร์ด ESP32 WI-fI แบบ USB Type C

    Global Pi Shop บอร์ด ESP32 WI-fI แบบ USB Type C

    ESP32 คืออะไร? บอร์ด IoT ทรงพลังพร้อม Wi-Fi + Bluetooth ในตัว ESP32 คือบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ประสิทธิภาพสูงจากบริษัท Espressif Systems ซึ่งเป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดมาจาก ESP8266 ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยมีความสามารถที่เหนือกว่าในหลายๆ ด้าน ทำให้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับโปรเจกต์ที่ซับซ้อนและต้องการประสิทธิภาพสูง มีทั้ง Wi-Fi และ Bluetooth (BLE) ในตัวชิปเดียว มี CPU แบบ Dual-Core ทำให้ประมวลผลได้รวดเร็วและรองรับงานหลายอย่างพร้อมกัน (Multi-threading) มีหน่วยความจำและจำนวนขา GPIO มากกว่า ESP8266 สามารถเขียนโปรแกรมได้หลายรูปแบบ ทั้งผ่าน Arduino IDE, MicroPython, หรือ ESP-IDF ในปัจจุบัน บอร์ด ESP32 รุ่นใหม่ๆ ได้เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB Type-C ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการเชื่อมต่อ ทนทานกว่า และใช้สายร่วมกับอุปกรณ์สมัยใหม่ได้ทันที สเปคของ ESP32 (ทั่วไป) ชิปหลัก ESP32 (มีหลายรุ่น เช่น ESP32-WROOM-32, S2, C3, S3) ซีพียู Dual-core Xtensa LX6 @ 240MHz Wi-Fi 802.11 b/g/n (2.4GHz) Bluetooth Bluetooth 4.2 + BLE (บางรุ่นรองรับ BT 5.0) หน่วยความจำ Flash 4MB หรือมากกว่า SRAM ประมาณ 520KB แรงดันใช้งาน 3.3V (แต่รับไฟผ่าน USB 5V ได้ มีเรกูเลเตอร์ในตัว) GPIO สูงสุด ~30 ขา (ขึ้นอยู่กับรุ่นของบอร์ด) Analog Input (ADC) สูงสุด 18 ช่อง (ความละเอียด 12-bit) Analog Output (DAC) 2 ช่อง (ความละเอียด 8-bit) การสื่อสาร UART, I2C, SPI, PWM, CAN, IR และอื่นๆ พอร์ต USB USB Type-C สำหรับอัปโหลดโปรแกรมและจ่ายไฟ รองรับแบตเตอรี่ บางรุ่นมีวงจรชาร์จแบตเตอรี่ Li-ion ในตัว การใช้งาน ESP32 ✅ เหมาะกับงานประเภทไหน? ด้วยความสามารถที่ครบครัน ESP32 จึงเหมาะอย่างยิ่งกับงานที่หลากหลาย โดยเฉพาะ: Internet of Things (IoT): เช่น การควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าผ่าน Wi-Fi หรือการส่งข้อมูลเซนเซอร์ขึ้น Cloud Smart Home: เช่น ระบบเปิด-ปิดไฟ, ระบบวัดอุณหภูมิและความชื้น, การควบคุมผ่านแอปพลิเคชันมือถือ การสื่อสารผ่าน Bluetooth: เช่น การรับส่งข้อมูลกับสมาร์ทโฟน, อุปกรณ์สวมใส่ (Wearables), หรือ Bluetooth Beacon โปรโตคอลเครือข่ายขั้นสูง: รองรับ ESP-NOW, MQTT, HTTP, WebSocket ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การเชื่อมต่อกับบริการ Cloud: สามารถทำงานร่วมกับ Firebase, LINE Notify, Blynk, Telegram, AWS IoT, และอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย ✅ ตัวอย่างการใช้งานยอดนิยม วัดอุณหภูมิ-ความชื้นด้วย DHT11/DHT22 แล้วส่งข้อมูลขึ้นเว็บหรือ LINE ควบคุมหลอดไฟหรือรีเลย์ผ่าน Web Server หรือแอปพลิเคชัน Blynk สร้างจอแสดงผลไร้สายโดยส่งข้อมูลไปยังจอ OLED/LCD ทำหน้าที่เป็น Wi-Fi Hotspot หรือ Web Server ขนาดเล็ก โปรเจกต์ด้าน AI/Machine Learning ขนาดเล็ก (บางรุ่นรองรับกล้องและ TensorFlow Lite) ตัวอย่างโค้ด: สร้าง Web Server บน ESP32 โค้ดนี้จะทำให้ ESP32 ของคุณเชื่อมต่อ Wi-Fi และสร้างหน้าเว็บที่แสดงข้อความ "สวัสดีจาก ESP32!" เมื่อเข้าถึงผ่านเบราว์เซอร์ #include <WiFi.h> // --- กรุณาแก้ไขชื่อและรหัสผ่าน Wi-Fi ของคุณ --- const char* ssid = "YOUR_WIFI_NAME"; const char* password = "YOUR_WIFI_PASSWORD"; // ------------------------------------------ WiFiServer server(80); // สร้าง Server ที่ Port 80 void setup() { Serial.begin(115200); // เริ่มต้นการเชื่อมต่อ Wi-Fi WiFi.begin(ssid, password); while (WiFi.status() != WL_CONNECTED) { delay(500); Serial.print("."); } Serial.println("\nWiFi connected!"); // แสดง IP Address ที่ได้รับ Serial.print("IP Address: "); Serial.println(WiFi.localIP()); // เริ่มต้น Web Server server.begin(); } void loop() { WiFiClient client = server.available(); if (client) { // ส่งข้อมูล HTML กลับไปให้ Client client.println("HTTP/1.1 200 OK"); client.println("Content-Type: text/html; charset=utf-8"); client.println("Connection: close"); client.println(); client.println("<!DOCTYPE HTML>"); client.println("<html>"); client.println("<head><meta charset='utf-8'></head>"); client.println("<body><h1>สวัสดีจาก ESP32!</h1></body>"); client.println("</html>"); delay(1); client.stop(); } } 📌 ข้อดีของรุ่นที่เป็น USB Type-C เสียบง่าย: ไม่ต้องกังวลเรื่องการเสียบกลับด้าน ลดความเสียหายของพอร์ต รองรับกระแสไฟได้ดี: เหมาะสำหรับบอร์ดที่ต้องการพลังงานสูง สะดวกสบาย: สามารถใช้สายชาร์จร่วมกับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ ได้เลย

    200.00 ฿ 155.00 ฿

  • ขาย -19% Raspberry Pi Pico 2 WH wireless with header

    Global Byte Shop Raspberry Pi Pico 2 WH wireless with header

    Raspberry Pi Pico 2 Wireless with Header 1. คืออะไร? Raspberry Pi Pico 2 Wireless with Header คือ บอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ (Microcontroller Board) รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Raspberry Pi ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการพัฒนาโปรเจกต์อิเล็กทรอนิกส์และ IoT (Internet of Things) ต่างๆ บอร์ดนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผล RP2350 ซึ่งเป็นชิปประสิทธิภาพสูงตัวใหม่จาก Raspberry Pi และมีคุณสมบัติเด่นคือ รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi และ Bluetooth ในตัว นอกจากนี้ รุ่น "with Header" หมายความว่ามีหัวเข็ม (pin headers) บัดกรีมาให้เรียบร้อยแล้ว ทำให้ง่ายต่อการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกและบอร์ดโปรโตไทป์ (breadboard) โดยไม่ต้องบัดกรีเอง จุดเด่นที่สำคัญคือ: ชิป RP2350: เป็นชิปไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ออกแบบโดย Raspberry Pi เอง มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ดีขึ้น การเชื่อมต่อไร้สาย: มี Wi-Fi 2.4GHz (802.11n) และ Bluetooth 5.2 ในตัว ทำให้สามารถสร้างอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือสื่อสารกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ง่าย Header บัดกรีพร้อมใช้: รุ่น "with Header" ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเริ่มใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องบัดกรีหัวเข็มเอง ซึ่งสะดวกสำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ต้องการความรวดเร็ว 2. สเปค (Specifications) นี่คือสเปคหลักของ Raspberry Pi Pico 2 Wireless with Header: Form Factor: 21 มม. × 51 มม. (ขนาดกะทัดรัด) CPU: Dual Arm Cortex-M33 หรือ Dual RISC-V Hazard3 processors ความเร็วสูงสุด 150 MHz Memory: 520 KB On-chip SRAM (หน่วยความจำชั่วคราว) 4 MB On-board QSPI Flash (หน่วยความจำถาวรสำหรับเก็บโปรแกรม) Connectivity (การเชื่อมต่อ): 2.4GHz 802.11n Wireless LAN (Wi-Fi 4) Bluetooth 5.2 (รองรับ Bluetooth LE Central และ Peripheral roles และ Bluetooth Classic) Interfacing (การเชื่อมต่อภายนอก): 26 Multi-purpose GPIO pins (ขา Input/Output อเนกประสงค์) 3 ใน 26 ขานั้นสามารถใช้เป็น ADC (Analog-to-Digital Converter) ได้ Peripherals (อุปกรณ์ต่อพ่วง): 2 × UART (สำหรับสื่อสารอนุกรม) 2 × SPI controllers (สำหรับสื่อสารกับอุปกรณ์ SPI) 2 × I2C controllers (สำหรับสื่อสารกับอุปกรณ์ I2C) 24 × PWM channels (สำหรับสร้างสัญญาณควบคุมมอเตอร์หรือไฟ LED) 1 × USB 1.1 controller and PHY, with host and device support (Micro USB B port สำหรับจ่ายไฟ, ส่งข้อมูล และโปรแกรม) 12 × PIO (Programmable I/O) state machines (สำหรับสร้างโปรโตคอล I/O แบบกำหนดเองได้) เซ็นเซอร์อุณหภูมิในตัว (Temperature sensor) Input Power: 1.8–5.5V DC Operating Temperature: -20°C to +85°C Programming: รองรับการเขียนโปรแกรมด้วย MicroPython และ C/C++ SDK Raspberry Pi Pico 2 Wireless with Header 1. คืออะไร? Raspberry Pi Pico 2 Wireless with Header คือ บอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ (Microcontroller Board) รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Raspberry Pi ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการพัฒนาโปรเจกต์อิเล็กทรอนิกส์และ IoT (Internet of Things) ต่างๆ บอร์ดนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผล RP2350 ซึ่งเป็นชิปประสิทธิภาพสูงตัวใหม่จาก Raspberry Pi และมีคุณสมบัติเด่นคือ รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi และ Bluetooth ในตัว นอกจากนี้ รุ่น "with Header" หมายความว่ามีหัวเข็ม (pin headers) บัดกรีมาให้เรียบร้อยแล้ว ทำให้ง่ายต่อการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกและบอร์ดโปรโตไทป์ (breadboard) โดยไม่ต้องบัดกรีเอง จุดเด่นที่สำคัญคือ: ชิป RP2350: เป็นชิปไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ออกแบบโดย Raspberry Pi เอง มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ดีขึ้น การเชื่อมต่อไร้สาย: มี Wi-Fi 2.4GHz (802.11n) และ Bluetooth 5.2 ในตัว ทำให้สามารถสร้างอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือสื่อสารกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ง่าย Header บัดกรีพร้อมใช้: รุ่น "with Header" ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเริ่มใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องบัดกรีหัวเข็มเอง ซึ่งสะดวกสำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ต้องการความรวดเร็ว 2. สเปค (Specifications) นี่คือสเปคหลักของ Raspberry Pi Pico 2 Wireless with Header: Form Factor: 21 มม. × 51 มม. (ขนาดกะทัดรัด) CPU: Dual Arm Cortex-M33 หรือ Dual RISC-V Hazard3 processors ความเร็วสูงสุด 150 MHz Memory: 520 KB On-chip SRAM (หน่วยความจำชั่วคราว) 4 MB On-board QSPI Flash (หน่วยความจำถาวรสำหรับเก็บโปรแกรม) Connectivity (การเชื่อมต่อ): 2.4GHz 802.11n Wireless LAN (Wi-Fi 4) Bluetooth 5.2 (รองรับ Bluetooth LE Central และ Peripheral roles และ Bluetooth Classic) Interfacing (การเชื่อมต่อภายนอก): 26 Multi-purpose GPIO pins (ขา Input/Output อเนกประสงค์) 3 ใน 26 ขานั้นสามารถใช้เป็น ADC (Analog-to-Digital Converter) ได้ Peripherals (อุปกรณ์ต่อพ่วง): 2 × UART (สำหรับสื่อสารอนุกรม) 2 × SPI controllers (สำหรับสื่อสารกับอุปกรณ์ SPI) 2 × I2C controllers (สำหรับสื่อสารกับอุปกรณ์ I2C) 24 × PWM channels (สำหรับสร้างสัญญาณควบคุมมอเตอร์หรือไฟ LED) 1 × USB 1.1 controller and PHY, with host and device support (Micro USB B port สำหรับจ่ายไฟ, ส่งข้อมูล และโปรแกรม) 12 × PIO (Programmable I/O) state machines (สำหรับสร้างโปรโตคอล I/O แบบกำหนดเองได้) เซ็นเซอร์อุณหภูมิในตัว (Temperature sensor) Input Power: 1.8–5.5V DC Operating Temperature: -20°C to +85°C Programming: รองรับการเขียนโปรแกรมด้วย MicroPython และ C/C++ SDK 3. ตัวอย่างการใช้งาน (Use Cases) Raspberry Pi Pico 2 Wireless with Header มีความสามารถที่หลากหลาย เหมาะสำหรับโปรเจกต์ต่างๆ ทั้งสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ที่ต้องการสร้างอุปกรณ์ที่ซับซ้อน: Smart Home / IoT Devices: ระบบควบคุมไฟอัจฉริยะ: ควบคุมการเปิด-ปิดไฟ หรือปรับความสว่างผ่าน Wi-Fi จากสมาร์ทโฟน เซ็นเซอร์สภาพอากาศอัจฉริยะ: อ่านค่าอุณหภูมิ ความชื้น และส่งข้อมูลไปยังคลาวด์ หรือแสดงผลบนหน้าจอ OLED ระบบรดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ: ตรวจสอบความชื้นในดินและสั่งงานปั๊มน้ำผ่าน Wi-Fi อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวพร้อมแจ้งเตือน: เมื่อตรวจพบการเคลื่อนไหว สามารถส่งการแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์ได้ Robotics & Automation: ควบคุมแขนหุ่นยนต์ขนาดเล็ก: ใช้ PWM ควบคุมมอเตอร์เซอร์โวหลายๆ ตัว หุ่นยนต์หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง: ใช้เซ็นเซอร์ระยะทางและควบคุมมอเตอร์ ระบบประตูอัตโนมัติ: ตรวจจับการเข้าออกและเปิด-ปิดประตู Wearable & Portable Devices: อุปกรณ์ติดตามฟิตเนสขนาดเล็ก: ใช้เซ็นเซอร์ Accelerometer/Gyroscope เพื่อติดตามการเคลื่อนไหว เครื่องเล่นเพลงพกพา: เชื่อมต่อกับลำโพงและควบคุมผ่าน Bluetooth Educational Projects: การเรียนรู้ MicroPython และ C/C++: เป็นบอร์ดที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้เริ่มต้นเรียนรู้การเขียนโปรแกรมไมโครคอนโทรลเลอร์ โปรเจกต์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรม: ใช้สร้างอุปกรณ์ทดลองหรือจำลองระบบต่างๆ General Purpose: สร้าง Custom Keypad / Macro Pad: สร้างปุ่มคีย์บอร์ดพิเศษสำหรับงานเฉพาะ ควบคุมจอแสดงผล OLED/LCD: แสดงข้อมูลต่างๆ Data Logging: เก็บข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่างๆ ลงในการ์ด SD หรือส่งผ่าน Wi-Fi

    400.00 ฿ 325.00 ฿

  • ขาย -53% Raspberry Pi 4 Model B

    Global Pi Shop Raspberry Pi 4 Model B

      Raspberry Pi 4 Model B คืออะไร? สเปคเด่นและการใช้งาน Raspberry Pi 4 Model B คือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กรุ่นยอดนิยมจากตระกูล Raspberry Pi ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยรุ่นนี้มีการอัปเกรดประสิทธิภาพขึ้นจาก Raspberry Pi 3 Model B+ อย่างชัดเจน ทั้งด้านความเร็วของ CPU, การประมวลผลมัลติมีเดีย, หน่วยความจำ และการเชื่อมต่อ — โดยยังคงความเข้ากันได้กับอุปกรณ์รุ่นเก่า และใช้พลังงานใกล้เคียงเดิม สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป Raspberry Pi 4 สามารถให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกับพีซีระดับเริ่มต้น เหมาะสำหรับใช้เป็นเดสก์ท็อปเบาๆ เซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก หรือโปรเจกต์ IoT ต่างๆ คุณสมบัติเด่น โปรเซสเซอร์ 64-bit Quad-Core ประสิทธิภาพสูง รองรับการแสดงผล 2 จอความละเอียดสูงสุด 4K ผ่าน micro-HDMI รองรับการถอดรหัสวิดีโอระดับ 4Kp60 ด้วยฮาร์ดแวร์ มาพร้อม RAM สูงสุดถึง 8GB แบบ LPDDR4 เชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4GHz / 5GHz และ Bluetooth 5.0 รองรับ Gigabit Ethernet ความเร็วสูง พอร์ต USB 3.0 สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็ว รองรับ Power over Ethernet (PoE) ผ่าน PoE HAT (อุปกรณ์เสริม) ขา GPIO 40 ขา ใช้ร่วมกับอุปกรณ์รุ่นเก่าได้ ผ่านการรับรองมาตรฐาน ใช้งานในผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ได้ง่าย สเปค Raspberry Pi 4 Model B ชิปประมวลผล Broadcom BCM2711, Quad-Core Cortex-A72 (ARM v8) 64-bit @ 1.5GHz หน่วยความจำ 8GB LPDDR4 SDRAM (มีรุ่น 1GB, 2GB, 4GB ด้วย) การเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 2.4GHz และ 5.0GHz (802.11b/g/n/ac), Bluetooth 5.0, BLE อีเธอร์เน็ต Gigabit Ethernet พอร์ต USB 2 × USB 3.0, 2 × USB 2.0 GPIO 40 ขา (เข้ากันได้กับ HATs รุ่นเก่า) เอาต์พุตจอภาพ 2 × micro HDMI (รองรับสูงสุด 4K@60Hz) พอร์ตกล้อง/จอ MIPI DSI และ CSI (2-lane) เสียง/วิดีโอ พอร์ต 4 ขา รองรับเสียงสเตอริโอ + วิดีโอ Composite หน่วยความจำภายนอก microSD card (สำหรับ OS และเก็บข้อมูล) พลังงาน 5.1V, 3A ผ่านพอร์ต USB-C หรือ GPIO PoE รองรับ (ต้องใช้ร่วมกับ PoE HAT) ตัวอย่างการใช้งาน Raspberry Pi 4 ใช้เป็นพีซีตั้งโต๊ะราคาประหยัด สร้างระบบสมาร์ทโฮม และ IoT ทำ Media Center ด้วย Kodi หรือ Plex ใช้เป็น Web Server / NAS Server ทำงาน AI/ML ที่ Edge โครงการเรียนรู้เขียนโปรแกรม / STEM ใช้งานฝังตัวในภาคอุตสาหกรรม คำถามที่พบบ่อย (FAQ) Raspberry Pi 4 ใช้แทนคอมพิวเตอร์ได้ไหม? ได้ในระดับเบื้องต้น เช่น ใช้งานเอกสาร, เว็บเบราว์เซอร์, เขียนโค้ด หรือเล่นวิดีโอความละเอียดสูง ลงระบบปฏิบัติการอะไรได้บ้าง? สามารถใช้ Raspberry Pi OS (Raspbian เดิม), Ubuntu, Kali Linux, LibreELEC และอื่นๆ ได้ ต่อจอคู่ได้หรือไม่? ได้ ผ่านพอร์ต micro HDMI ทั้ง 2 ช่อง รองรับจอความละเอียดสูงสุด 4K@60Hz ใช้ที่ชาร์จมือถือเสียบได้ไหม? ไม่แนะนำ ควรใช้แหล่งจ่ายไฟ 5.1V, 3A ที่เสถียรผ่านพอร์ต USB-C เพื่อป้องกันปัญหาเครื่องรีสตาร์ท อุปกรณ์เสริมของรุ่นเก่าใช้งานได้ไหม? อุปกรณ์อย่าง HAT หรือ GPIO ส่วนมากใช้ร่วมกันได้ แต่เคสและอะแดปเตอร์อาจต้องเปลี่ยน 📌 หากคุณกำลังมองหาบอร์ดคอมพิวเตอร์ทรงพลัง ขนาดกะทัดรัด ใช้งานได้หลากหลาย Raspberry Pi 4 Model B คือตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด

    2,015.00 ฿ - 2,700.00 ฿

  • ขาย -49% Raspberry Pi 3 Model B+

    Global Pi Shop Raspberry Pi 3 Model B+

    Raspberry Pi 3 Model B+ แจ้งเตือน: สินค้าใช้เวลาจัดส่งเร็วกว่าปกติ กรุณาสอบถามก่อนชำระเงิน ขอบคุณค่ะ 🙏 Raspberry Pi 3 Model B+ คือรุ่นอัปเกรดที่ทรงประสิทธิภาพในซีรีส์ Raspberry Pi 3 โดยยังคงขนาดและพอร์ตเชื่อมต่อที่คุ้นเคยไว้ครบถ้วน แต่มาพร้อมความเร็วและประสิทธิภาพที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งการเชื่อมต่อไร้สายแบบดูอัลแบนด์และ Ethernet ที่เร็วขึ้น ทำให้เป็นบอร์ดที่สมบูรณ์แบบสำหรับโปรเจกต์ IoT, เซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก, งานด้านการศึกษา และอื่นๆ อีกมากมาย รายละเอียดเพิ่มเติม จุดเด่นสำคัญของ Raspberry Pi 3 Model B+ คือการผ่านการรับรองมาตรฐานด้านเครือข่ายไร้สายแบบสมบูรณ์ในตัว (Modular Compliance Certification) ซึ่งช่วยลดขั้นตอน ลดต้นทุน และประหยัดเวลาในการนำบอร์ดไปพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ได้อย่างมหาศาล คุณสมบัติเด่น CPU 64-bit Quad-core 1.4GHz RAM 1GB LPDDR2 WiFi ดูอัลแบนด์ 2.4/5GHz Bluetooth 4.2 BLE Gigabit Ethernet (สูงสุด 300Mbps) รองรับ PoE (ผ่าน PoE HAT) พอร์ต USB 2.0 x 4 พอร์ต HDMI ขนาดเต็ม ขา GPIO 40 พิน ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค (Technical Specifications) โปรเซสเซอร์ Broadcom BCM2837B0, Cortex-A53 64-bit SoC @ 1.4GHz หน่วยความจำ 1GB LPDDR2 SDRAM การเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi ดูอัลแบนด์ 2.4GHz และ 5GHz IEEE 802.11 b/g/n/ac, Bluetooth 4.2, BLE อีเธอร์เน็ต Gigabit Ethernet over USB 2.0 (ความเร็วสูงสุด 300Mbps) พอร์ต USB 4 × USB 2.0 ports GPIO 40-pin GPIO header (เข้ากันได้กับรุ่นเก่า) วิดีโอและเสียง 1 × พอร์ต HDMI ขนาดเต็มพอร์ตแสดงผล MIPI DSIพอร์ตกล้อง MIPI CSIพอร์ตเสียงสเตอริโอและวิดีโอคอมโพสิตแบบ 4 ขั้ว หน่วยความจำภายนอก ช่องใส่ microSD card สำหรับระบบปฏิบัติการและเก็บข้อมูล แหล่งจ่ายไฟ 5V/2.5A DC ผ่านพอร์ต micro USB5V DC ผ่าน GPIO header Power-over-Ethernet (PoE) รองรับ (ต้องใช้อุปกรณ์เสริม PoE HAT) 🛒 สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่นี่ globalpishop.com

    2,540.00 ฿ 1,308.00 ฿

  • โปรเจกต์ Raspberry Pi IoT Server InfluxDB MQTT Grafana Node-RED

    Global Pi Shop Project Raspberry Pi IoT Server InfluxDB, MQTT, Grafana, Node-RED

    ชุดสร้าง IoT Server อัจฉริยะด้วย Raspberry Pi 4 สร้างศูนย์กลางข้อมูล IoT (Internet of Things) ส่วนตัวของคุณด้วยชุดอุปกรณ์ Raspberry Pi 4 ที่มาพร้อมทุกสิ่งที่คุณต้องการ โปรเจกต์นี้จะเปลี่ยน Raspberry Pi ของคุณให้กลายเป็นเซิร์ฟเวอร์อัจฉริยะสำหรับรวบรวม, จัดเก็บ, และแสดงผลข้อมูลจากเซนเซอร์ต่างๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการตั้งค่าระบบ Smart Home หรือ Smart Farm ด้วยงบประมาณที่จำกัด แต่ได้ประสิทธิภาพระดับสูง หัวใจหลักของ IoT Server ที่คุณจะได้เรียนรู้ InfluxDB ฐานข้อมูลที่ออกแบบมาเพื่อเก็บข้อมูลแบบ Time-series โดยเฉพาะ เหมาะสำหรับการบันทึกค่าจากเซนเซอร์ต่างๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงตามเวลา Grafana เครื่องมือสร้าง Dashboard สำหรับแสดงผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ คุณสามารถสร้างกราฟสวยงามเพื่อติดตามค่าต่างๆ ที่บันทึกไว้ใน InfluxDB MQTT โปรโตคอลสื่อสารน้ำหนักเบาที่ทำให้อุปกรณ์ IoT สามารถส่งและรับข้อมูลหากันได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว Node-RED เครื่องมือสร้าง Flow การทำงานแบบ Visual (ลาก-วาง) ทำให้การสร้างเงื่อนไขและตรรกะการทำงานเป็นเรื่องง่ายโดยไม่ต้องเขียนโค้ดซับซ้อน อุปกรณ์ทั้งหมดในชุดนี้ รหัสสินค้า รายการอุปกรณ์ จำนวน F80094 Raspberry Pi 4 (4GB RAM) 1 ชิ้น F74138 Raspberry Pi 4 Case (เคส) 1 ชิ้น NF73987 Adapter Raspberry Pi 4 (Official Power Supply) 1 ชิ้น NF68465 SD Card 32GB 1 ชิ้น F79265 Micro HDMI to HDMI Cable 1 เส้น NF65047 Heat Sink (ชุดระบายความร้อน) 1 ชุด เริ่มต้นโปรเจกต์ IoT ของคุณเลย!

    3,750.00 ฿

  • ขาย -44% Breadboard 830 รู for Raspberry Pi และ arduino

    Global Pi Shop Breadboard 830 รู for Raspberry Pi และ arduino

    Breadboard 830 รู คืออะไร และใช้งานอย่างไร Breadboard (เบรดบอร์ด) หรือที่เรียกกันว่า "บอร์ดทดลอง" คืออุปกรณ์พื้นฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับนักประดิษฐ์และผู้ที่ชื่นชอบงานอิเล็กทรอนิกส์ ทำหน้าที่เป็นแผงวงจรชั่วคราวที่เราสามารถเสียบอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ตัวต้านทาน, LED, IC, เซนเซอร์ หรือเชื่อมต่อสายไฟเข้าด้วยกันได้อย่างง่ายดาย **โดยไม่จำเป็นต้องบัดกรี** ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนและแก้ไขวงจรได้อย่างรวดเร็ว สำหรับรุ่น 830 รู เป็นเบรดบอร์ดขนาดกลางถึงใหญ่ที่ได้รับความนิยมสูง มีพื้นที่เพียงพอสำหรับโปรเจกต์ที่ซับซ้อนขึ้น ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์และสายไฟจำนวนมาก เหมาะสำหรับใช้งานร่วมกับไมโครคอนโทรลเลอร์อย่าง Arduino, ESP32, NodeMCU หรือแม้กระทั่ง Raspberry Pi โครงสร้างของ Breadboard 830 รู แผงจ่ายไฟ (Power Rails) โดยทั่วไปจะอยู่บริเวณขอบบนและขอบล่างของบอร์ด มีสัญลักษณ์เส้นสีแดง (+) และสีน้ำเงิน/ดำ (-) กำกับไว้ รูทั้งหมดในแนวนอนของแต่ละเส้นจะเชื่อมต่อถึงกัน เหมาะสำหรับใช้เป็นจุดจ่ายไฟหลักของวงจร เช่น ต่อไฟ 5V หรือ 3.3V เข้ากับแถบสีแดง (+) และต่อกราวด์ (GND) เข้ากับแถบสีน้ำเงิน (-) พื้นที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ (Terminal Strips) เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ตรงกลางของบอร์ด การเชื่อมต่อของรูในส่วนนี้จะแตกต่างจากแผงจ่ายไฟ โดยรูจำนวน 5 รูในแนวตั้งของแต่ละคอลัมน์จะเชื่อมต่อถึงกัน ใช้สำหรับเสียบขาของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ขาของ LED, ตัวต้านทาน, ขาเซนเซอร์ หรือ IC เพื่อให้เชื่อมต่อกันในวงจรตามที่เราออกแบบ ข้อมูลจำเพาะ (Specifications) จำนวนรูทั้งหมด 830 รู พื้นที่จ่ายไฟ (Power Rail) 2 แถวคู่ (บน-ล่าง), รวม 200 รู พื้นที่อุปกรณ์ (Terminal Strip) 630 รู ขนาดโดยประมาณ 16.5 x 5.5 ซม. แรงดันไฟฟ้าที่รองรับ โดยทั่วไปแนะนำไม่เกิน 5V (เหมาะสำหรับ Arduino/Raspberry Pi) กระแสไฟฟ้าที่รองรับ ประมาณ 300 - 500 mA ต่อหนึ่งแถวเชื่อมต่อ คุณสมบัติพิเศษ ด้านล่างมีเทปกาวสองหน้าสำหรับยึดติดกับฐานหรือชิ้นงาน มีรอยต่อด้านข้างสำหรับเชื่อมต่อกับเบรดบอร์ดชิ้นอื่นเพื่อขยายพื้นที่ การใช้งานร่วมกับ Raspberry Pi แม้ว่าบอร์ด Raspberry Pi จะไม่มีขาที่เสียบลงบน Breadboard ได้โดยตรงเหมือน Arduino แต่เราสามารถเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดายผ่าน 2 วิธีหลัก: สาย Jumper (Male-to-Female): ใช้สายจัมเปอร์หัวผู้-เมีย เสียบจากขา GPIO บน Raspberry Pi มายังรูบน Breadboard โดยตรง T-Cobbler และสายแพ GPIO: เป็นวิธีที่นิยมและสะดวกที่สุด โดยใช้ T-Cobbler เสียบลงบน Breadboard ซึ่งจะจำลองขา GPIO ทั้งหมดของ Raspberry Pi มาไว้บนบอร์ด ทำให้ต่อวงจรได้ง่ายและเป็นระเบียบ ตัวอย่างการใช้งาน Breadboard 830 รู เหมาะสำหรับโปรเจกต์ที่หลากหลาย เช่น: วงจรควบคุม LED และปุ่มกดพื้นฐาน เชื่อมต่อและอ่านค่าจากเซนเซอร์ต่างๆ (เช่น เซนเซอร์อุณหภูมิ DHT11, เซนเซอร์แก๊ส MQ-2, เซนเซอร์วัดความชื้นในดิน) ทดลองวงจรขับมอเตอร์ด้วย IC Driver สร้างโปรเจกต์ IoT, Smart Farm, หรือระบบเตือนภัยต้นแบบก่อนนำไปทำแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) จริง

    45.00 ฿ 25.00 ฿

  • ขาย -26% Arduino Uno R4 WIFI

    Global Pi Shop Arduino Uno R4 WIFI

    Arduino UNO R4 WiFi: การกลับมาครั้งใหม่ของบอร์ดระดับตำนาน Arduino UNO R4 WiFi คือการพัฒนาครั้งสำคัญของบอร์ด Arduino ที่เป็นที่รักของเมกเกอร์ทั่วโลก โดยผสานพลังการประมวลผลและอุปกรณ์ต่อพ่วงใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นจากไมโครคอนโทรลเลอร์ Renesas RA4M1 เข้ากับความสามารถในการเชื่อมต่อไร้สายของชิป ESP32-S3 จาก Espressif นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ติดตั้งมาบนบอร์ดอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นจอ LED Matrix 12x8, คอนเนคเตอร์ Qwiic, ขาสำหรับแบตเตอรี่ RTC และขา OFF เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของเมกเกอร์สำหรับโปรเจกต์ถัดไปของคุณ มีอะไรใหม่ใน Arduino UNO R4 WiFi? เชื่อมต่อไร้สายครบครัน มีโมดูล ESP32-S3 ในตัว ทำให้สามารถเพิ่มการเชื่อมต่อ Wi-Fi® และ Bluetooth® ให้กับโปรเจกต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย และยังสามารถทำงานร่วมกับ Arduino IoT Cloud เพื่อควบคุมและติดตามโปรเจกต์จากระยะไกลได้ จอ LED Matrix ในตัว มาพร้อมกับจอ LED Matrix สีแดงขนาด 12x8 ที่สว่างสดใส เหมาะสำหรับโปรเจกต์สร้างสรรค์ที่ต้องการแสดงภาพแอนิเมชันหรือข้อมูลจากเซนเซอร์ โดยไม่ต้องต่อฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า อัปเกรดหน่วยความจำและ Clock Speed ให้สูงขึ้นอย่างมาก ช่วยให้สามารถคำนวณได้แม่นยำและจัดการกับโปรเจกต์ที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย พอร์ตและอุปกรณ์ต่อพ่วงใหม่ เพิ่มอุปกรณ์ต่อพ่วงบนบอร์ดเข้ามามากมาย เช่น 12-bit DAC, CAN BUS, และ OP AMP เพิ่มขีดความสามารถและความยืดหยุ่นในการออกแบบ รองรับแรงดันไฟสูงขึ้น รองรับแรงดันไฟฟ้าขาเข้า (Input Voltage) ที่กว้างขึ้นถึง 24V ทำให้สามารถทำงานร่วมกับมอเตอร์, ไฟ LED Strip, และ Actuator อื่นๆ โดยใช้แหล่งจ่ายไฟเพียงแหล่งเดียว ฟีเจอร์สำหรับนักพัฒนา รองรับ HID ในตัว (จำลองเป็นเมาส์/คีย์บอร์ด), มีคอนเนคเตอร์ Qwiic I2C, ขา VRTC สำหรับ RTC, และมีกลไกตรวจจับข้อผิดพลาดขณะทำงาน (Runtime errors) เพื่อช่วยในการดีบักโค้ด เข้ากันได้กับ UNO R3 เดิม 100% ไม่ต้องกังวลกับโปรเจกต์เก่าของคุณ! Arduino UNO R4 WiFi ยังคงรักษารูปแบบ (Form Factor), ตำแหน่งขา (Pinout), และแรงดันไฟฟ้าทำงานที่ 5V เหมือนกับ UNO R3 ทุกประการ ทำให้สามารถเปลี่ยนแทนบอร์ดเก่าหรือใช้ Shield เดิมที่มีอยู่ได้อย่างราบรื่น @globaltech.shop สาย Maker ต้องไม่พลาด! "ของมันต้องมี 🔧 UNO R4 ตัวใหม่ แรงกว่าเดิม แถมมีลูกเล่นเพียบ! #ArduinoUNO #UNO4 #ไมโครคอนโทรลเลอร์ #Arduinoไทย #รีวิวของใหม่ #DIYอิเล็กทรอนิกส์ #ของเล่นใหม่ #TechTok #สายMaker #แกะกล่อง ♬ เสียงต้นฉบับ - Globalpi.shop

    700.00 ฿ 520.00 ฿

ไอคอน IoT Internet of Things

© 2025 บริษัท โกลบอลโทรนิค อินเตอร์เทรด จํากัด, ขับเคลื่อนโดย Shopify

  • PayPal

เข้าสู่ระบบ

ลืมรหัสผ่านใช่ไหม?

ยังไม่มีบัญชีใช่ไหม?
สร้างบัญชี