⚡ Raspberry Pi 4 vs Raspberry Pi 5
เปรียบเทียบครบทุกด้าน ช่วยคุณเลือกให้ถูกใจ! 🎯
Raspberry Pi 5 เปิดตัวมาพร้อมการอัพเกรดครั้งใหญ่ ทำให้หลายคนสงสัยว่าควรเลือก Pi 5 หรือยังคงใช้ Pi 4 ต่อไปดี บทความนี้จะเปรียบเทียบทั้งสองรุ่นอย่างละเอียด ทั้งด้านประสิทธิภาพ สเปค พอร์ตเชื่อมต่อ ราคา และการใช้งานที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือก Raspberry Pi ที่ใช่สำหรับโปรเจกต์ของคุณ
⚡ ประสิทธิภาพ CPU และ GPU
Raspberry Pi 5 ใช้ชิป Broadcom BCM2712 รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า Pi 4 ถึง 2-3 เท่า 🚀 โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความเร็วในการประมวลผลสูง เช่น การเล่นวิดีโอ 4K, การประมวลผลภาพ และการรันโปรแกรมหนัก ๆ ส่วน GPU ก็ได้รับการปรับปรุงให้รองรับการแสดงผล 4K ที่ 60fps ได้อย่างลื่นไหล
🔥 Raspberry Pi 5
- CPU: Broadcom BCM2712 (Cortex-A76) 2.4GHz Quad-core - เร็วกว่า Pi 4 ถึง 2-3 เท่า
- GPU: VideoCore VII - รองรับ 4Kp60 HEVC, OpenGL ES 3.1, Vulkan 1.2
💪 Raspberry Pi 4
- CPU: Broadcom BCM2711 (Cortex-A72) 1.5GHz Quad-core - ประสิทธิภาพดีสำหรับงานทั่วไป
- GPU: VideoCore VI - รองรับ 4Kp30, OpenGL ES 3.0
💾 RAM และหน่วยความจำ
ทั้ง Pi 4 และ Pi 5 มีตัวเลือก RAM ที่หลากหลาย แต่ Pi 5 ใช้ RAM ที่เร็วกว่า (LPDDR4X-4267) ทำให้การทำงานพร้อมกันหลาย ๆ โปรแกรมหรือการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ทำได้เร็วและลื่นไหลกว่า ⚡ ส่วน Pi 4 แม้จะใช้ RAM ที่ช้ากว่าเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอสำหรับงานส่วนใหญ่
🔥 Raspberry Pi 5
RAM: 4GB หรือ 8GB LPDDR4X-4267 (เร็วกว่า Pi 4 ประมาณ 33%)
💪 Raspberry Pi 4
RAM: 1GB, 2GB, 4GB หรือ 8GB LPDDR4-3200 (มีตัวเลือกหลากหลายกว่า เหมาะกับงบประมาณต่าง ๆ)
🔌 พอร์ตและการเชื่อมต่อ
Pi 5 มาพร้อมพอร์ตที่ทันสมัยกว่า โดยเฉพาะการเพิ่ม PCIe 2.0 interface ที่ทำให้สามารถเชื่อมต่อ SSD ความเร็วสูงได้ 💨 และยังรองรับการแสดงผล 4K ที่ 60fps บนจอ 2 จอพร้อมกัน ส่วน Pi 4 แม้จะมีพอร์ตครบครัน แต่จำกัดอยู่ที่ 4Kp30 และไม่มี PCIe
🔥 Raspberry Pi 5
- USB 3.0 x 2, USB 2.0 x 2
- Gigabit Ethernet
- 2x micro-HDMI รองรับ 4Kp60
- PCIe 2.0 x1 interface (เชื่อมต่อ NVMe SSD ได้)
- Bluetooth 5.0 / BLE
- Wi-Fi 802.11ac (2.4GHz และ 5GHz)
💪 Raspberry Pi 4
- USB 3.0 x 2, USB 2.0 x 2
- Gigabit Ethernet
- 2x micro-HDMI รองรับ 4Kp30
- ไม่มี PCIe (ใช้ USB boot หรือ MicroSD เท่านั้น)
- Bluetooth 5.0 / BLE
- Wi-Fi 802.11ac (2.4GHz และ 5GHz)
🌡️ การระบายความร้อนและการใช้พลังงาน
Pi 5 มีประสิทธิภาพสูงกว่า จึงใช้พลังงานมากกว่าและร้อนกว่า Pi 4 🔥 แนะนำให้ใช้พัดลมระบายความร้อนหรือ Heatsink เสมอ เพื่อป้องกันการ Thermal Throttling ส่วน Pi 4 สามารถใช้งานทั่วไปโดยไม่ต้องมีพัดลมก็ได้ แต่ถ้าใช้งานหนักแนะนำให้ติดพัดลมเช่นกัน 😊
🔥 Raspberry Pi 5
💡 พลังงาน: ใช้ USB-C PD 5V/5A (25W) - ร้อนกว่า Pi 4 มาก แนะนำให้ใช้พัดลมหรือ Active Cooling
💪 Raspberry Pi 4
💡 พลังงาน: ใช้ USB-C 5V/3A (15W) - ใช้พลังงานน้อยกว่า ใช้งานทั่วไปไม่ต้องมีพัดลม
💰 ราคาและความคุ้มค่า
Pi 5 มีราคาสูงกว่า Pi 4 เล็กน้อย แต่ได้ประสิทธิภาพที่สูงกว่ามาก 💪 ถ้าต้องการเครื่องที่ใช้งานได้นานและรองรับอนาคต Pi 5 คุ้มค่ากว่า แต่ถ้างบจำกัดหรือใช้งานไม่หนัก Pi 4 ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีมาก
🔥 Raspberry Pi 5
💵 ราคา:
• 4GB: ~2,800 บาท
• 8GB: ~3,500 บาท
(ราคาอาจแตกต่างตามร้าน)
💪 Raspberry Pi 4
💵 ราคา:
• 2GB: ~1,800 บาท
• 4GB: ~2,200 บาท
• 8GB: ~2,800 บาท
(ราคาถูกกว่า Pi 5)
📊 สรุปและคำแนะนำ
ทั้ง Raspberry Pi 4 และ Pi 5 ต่างก็มีจุดเด่นของตัวเอง Pi 5 เหนือกว่าอย่างชัดเจนในด้านประสิทธิภาพ เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วสูง เช่น Desktop use, Media Center 4K, AI/ML และ Gaming 🎮 ส่วน Pi 4 ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับงาน IoT, โปรเจกต์ประหยัดพลังงาน และผู้เริ่มต้นที่มีงบจำกัด 💡 เลือก Pi 5 ถ้าต้องการประสิทธิภาพสูงสุดและพร้อมจ่ายเงินมากขึ้นเล็กน้อย หรือเลือก Pi 4 ถ้าต้องการประหยัดพลังงาน ใช้งานไม่หนัก หรือมีงบประมาณจำกัด ทั้งสองตัวต่างก็ยอดเยี่ยมในแบบของตัวเอง! ✨