Approved Reseller of Raspberry Pi

The biggest Backdoor in the world

🚨 Backdoor ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

การค้นพบช่องโหว่ XZ Utils ที่เกือบทำลายความปลอดภัยของ Linux ทั่วโลก

ในเดือนมีนาคม 2024 โลกเทคโนโลยีเกือบเผชิญกับวิกฤตความปลอดภัยครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อมีการค้นพบ Backdoor ที่ซ่อนอยู่ใน XZ Utils ซึ่งเป็นเครื่องมือบีบอัดข้อมูลที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในระบบ Linux นี่คือการโจมตี Supply Chain ที่ซับซ้อนและวางแผนมานานกว่า 2 ปี หากไม่ได้รับการตรวจพบทันเวลา ผลกระทบอาจส่งผลต่อระบบคอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่องทั่วโลก และเปิดประตูให้ผู้โจมตีเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ที่สำคัญได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็น

🔍 XZ Utils คืออะไร?

XZ Utils เป็นเครื่องมือบีบอัดและคลายการบีบอัดไฟล์แบบ Open Source ที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในระบบปฏิบัติการ Linux และ Unix มันเป็นส่วนหนึ่งของระบบพื้นฐานที่สำคัญ ใช้ในการบีบอัดไฟล์ต่างๆ รวมถึงแพ็คเกจซอฟต์แวร์ ไฟล์สำรอง และข้อมูลระบบ เนื่องจากความสำคัญและการใช้งานที่แพร่หลาย XZ Utils จึงกลายเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจสำหรับผู้โจมตีที่ต้องการสร้าง Backdoor เข้าสู่ระบบ Linux จำนวนมากพร้อมกัน การที่เครื่องมือพื้นฐานเช่นนี้ถูกบุกรุกจึงมีความร้ายแรงอย่างยิ่ง เพราะมันอยู่ในระดับแกนของระบบปฏิบัติการ


🕵️ Backdoor ถูกค้นพบได้อย่างไร?

ในวันที่ 29 มีนาคม 2024 Andres Freund นักพัฒนาซอฟต์แวร์จาก Microsoft สังเกตเห็นความผิดปกติในประสิทธิภาพของ SSH (Secure Shell) บนระบบ Debian ที่เขาใช้งาน เขาพบว่าการเชื่อมต่อ SSH ใช้เวลานานขึ้นและใช้ CPU มากผิดปกติ จากการสืบสวนอย่างละเอียด เขาค้นพบว่าไฟล์ liblzma ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ XZ Utils เวอร์ชัน 5.6.0 และ 5.6.1 มีโค้ดที่น่าสงสัยซ่อนอยู่ โค้ดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อดักจับและแก้ไข SSH authentication process ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าสู่ระบบได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านที่ถูกต้อง การค้นพบนี้เกิดขึ้นก่อนที่ XZ Utils เวอร์ชันที่มี Backdoor จะถูกรวมเข้ากับ Linux distributions หลักๆ ซึ่งถือเป็นโชคดีอย่างยิ่งที่ช่วยป้องกันภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้


📅 ไทม์ไลน์เหตุการณ์

  • 📌 กุมภาพันธ์ 2022: บัญชี GitHub ชื่อ "Jia Tan" (JiaT75) เริ่มมีส่วนร่วมในโปรเจค XZ Utils โดยทำการแก้ไขและปรับปรุงโค้ดต่างๆ ซึ่งดูเหมือนเป็นการมีส่วนร่วมที่ถูกต้องตามปกติ แต่ในภายหลังพบว่าเป็นการวางรากฐานสำหรับการโจมตีในอนาคต

  • 📌 2023: Jia Tan ได้รับความไว้วางใจมากขึ้นและกลายเป็น Co-maintainer ของโปรเจค มีสิทธิ์ในการอนุมัติและรวม (merge) โค้ดเข้าสู่โปรเจคหลัก นี่เป็นขั้นตอนสำคัญที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมโปรเจคได้มากขึ้น และสามารถแทรกโค้ดอันตรายได้โดยไม่ถูกตั้งคำถาม

  • 📌 กุมภาพันธ์ 2024: Jia Tan ปล่อย XZ Utils เวอร์ชัน 5.6.0 และ 5.6.1 ที่มี Backdoor ซ่อนอยู่ในไฟล์ที่ถูกบีบอัดและซ่อนเร้นอย่างชาญฉลาด โค้ดอันตรายถูกซ่อนในไฟล์ทดสอบที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตราย และใช้เทคนิคการเข้ารหัสและซ่อนโค้ดหลายชั้นเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ

  • 📌 29 มีนาคม 2024: Andres Freund ค้นพบความผิดปกติและเปิดเผยช่องโหว่ต่อสาธารณะ ทำให้ชุมชน Open Source และ Linux distributions ต่างๆ เร่งออกแพตช์และคำเตือนอย่างเร่งด่วน การค้นพบทันเวลานี้ได้ช่วยป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับระบบคอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่องทั่วโลก


💥 ผลกระทบและความร้ายแรง

Backdoor นี้ถือเป็นหนึ่งในการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายที่สุดที่เคยพบใน Open Source Software เพราะมันถูกวางแผนและดำเนินการอย่างระมัดระวังเป็นเวลากว่า 2 ปี ผู้โจมตีสร้างความน่าเชื่อถือผ่านการมีส่วนร่วมในโปรเจคอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งได้รับความไว้วางใจให้เป็น maintainer หาก Backdoor นี้ไม่ได้รับการค้นพบทันเวลา มันอาจถูกรวมเข้ากับ Linux distributions หลักๆ เช่น Ubuntu, Fedora, Debian และอื่นๆ ที่ใช้งานโดยองค์กร รัฐบาล และบุคคลทั่วโลกหลายล้านราย ผู้โจมตีจะสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์และระบบที่สำคัญได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็น ขโมยข้อมูล ดักจับการสื่อสาร หรือแม้แต่ควบคุมระบบทั้งหมดได้ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นรวมถึงการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญระดับชาติ ข้อมูลการเงินของบริษัทขนาดใหญ่ และข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้นับล้าน นี่จึงถือเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา

⚠️ ระบบที่ได้รับผลกระทบ

  • 🔴 Fedora Rawhide และ Fedora Linux 40 Beta - ได้รับผลกระทบโดยตรง

  • 🔴 Debian Testing, Unstable และ Experimental - มี XZ Utils เวอร์ชันที่เสี่ยง

  • 🔴 Kali Linux - ระบบเพื่อการทดสอบความปลอดภัยก็ได้รับผลกระทบ

  • 🔴 openSUSE Tumbleweed และ openSUSE MicroOS - รวมถึง distributions อื่นๆ ที่ใช้ Bleeding Edge packages


📚 บทเรียนที่ได้รับ

เหตุการณ์นี้สอนให้เราเห็นถึงความเปราะบางของระบบนิเวศ Open Source ที่พึ่งพาอาสาสมัครและความไว้วางใจระหว่างกัน การโจมตี Supply Chain แบบนี้แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีสามารถใช้เวลาและทรัพยากรอย่างมากในการสร้างความน่าเชื่อถือก่อนที่จะแทรก Backdoor โปรเจค Open Source ต่างๆ จำเป็นต้องมีกระบวนการตรวจสอบโค้ดที่เข้มงวดขึ้น การ Code Review จากหลายฝ่าย และการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้มีส่วนร่วมในโปรเจคอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ชุมชนเทคโนโลยีควรให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โปรเจค Open Source ที่สำคัญมากขึ้น เพื่อให้ maintainers สามารถทำงานเต็มเวลาและไม่ต้องพึ่งพาอาสาสมัครที่ไม่ทราบที่มาที่ไป การลงทุนในความปลอดภัยของ Infrastructure พื้นฐานเหล่านี้จะช่วยป้องกันเหตุการณ์คล้ายคลึงกันในอนาคต

🛡️ วิธีป้องกันตัวเอง

ผู้ใช้และองค์กรควรอัปเดตระบบของตนเป็นประจำและติดตามข่าวสารด้านความปลอดภัย สำหรับ Linux distributions ที่ได้รับผลกระทบ ควรดาวน์เกรด XZ Utils ไปยังเวอร์ชันที่ปลอดภัย (5.4.x หรือเก่ากว่า) หรืออัปเดตไปยังเวอร์ชันที่มีการแก้ไขแล้ว องค์กรควรมีการตรวจสอบ Dependency และ Supply Chain ของซอฟต์แวร์ที่ใช้งานอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการใช้เครื่องมือ Security Scanning เพื่อตรวจจับความผิดปกติ การติดตั้ง Intrusion Detection Systems (IDS) และ Security Information and Event Management (SIEM) จะช่วยตรวจจับพฤติกรรมที่น่าสงสัยในเครือข่าย นอกจากนี้ การใช้ Principle of Least Privilege คือการให้สิทธิ์เฉพาะที่จำเป็นแก่ผู้ใช้และโปรแกรมต่างๆ จะช่วยจำกัดผลกระทบหากระบบถูกบุกรุก การฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัยและการรับมือกับ Social Engineering ก็เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันองค์กรจากการโจมตีในรูปแบบต่างๆ

Backdoor XZ Utils เป็นเหตุการณ์ที่เตือนใจเราทุกคนในโลกเทคโนโลยีเกี่ยวกับความสำคัญของความปลอดภัยและการตรวจสอบโค้ด โชคดีที่การค้นพบนี้เกิดขึ้นทันเวลาก่อนที่จะสร้างความเสียหายในวงกว้าง แต่ก็แสดงให้เห็นว่าระบบนิเวศ Open Source ยังมีช่องโหว่ที่อาจถูกใช้ประโยชน์ได้ การสนับสนุนโปรเจค Open Source ทางการเงิน การมีส่วนร่วมในการตรวจสอบโค้ด และการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น จะช่วยให้เราสามารถป้องกันภัยคุกคามในอนาคตได้ดีขึ้น เหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับชุมชนเทคโนโลยีโลกในการปรับปรุงกระบวนการและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ Open Source Ecosystem ต่อไป

🔐 สนใจเทคโนโลยีและความปลอดภัยทางไซเบอร์?

เยี่ยมชม Globalbyteshop 🛒


Blog posts

© 2025 บริษัท โกลบอลโทรนิค อินเตอร์เทรด จํากัด, ขับเคลื่อนโดย Shopify

    • PayPal

    เข้าสู่ระบบ

    ลืมรหัสผ่านใช่ไหม?

    ยังไม่มีบัญชีใช่ไหม?
    สร้างบัญชี